ไหว้พระที่พม่าขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 7 วัด เสริมดวงบารมีที่ย่างกุ้ง-สิเรียม

19/09/19 15:06:14 10388
ไหว้พระที่พม่าขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 7 วัด เสริมดวงบารมีที่ย่างกุ้ง-สิเรียม

สวัสดีค่ะ วันนี้ ควอลิตี้ เอ็กซ์เพรส จะพาทุกท่านไปเที่ยวประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง นั่นก็คือ..ประเทศพม่า เป็นประเทศที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งหลาย นิยมไปสักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ขึ้นชื่อของประเทศพม่า 
วันนี้ควอลิตี้ เอ็กซ์เพรสจึงมี 7 วัด ในย่างกุ้งและสิเรียม มาแนะนำทุกท่าน จะมีที่ไหนบ้างมาดูกันเลยค่ะ

การเดินทางในครั้งนี้ เราเดินทางด้วย สายการบินนกแอร์(DD)
สายการบินนกแอร์มีเที่ยวบินไปย่างกุ้งถึง 3 เที่ยวบินต่อวัน ทำให้การไปเที่ยวพม่านั้นสะดวกมากขึ้น
ไฟล์ที่เราเดินทางไปไหว้พระที่พม่าในทริปนี้คือ
ขาไป ดอนเมือง-ย่างกุ้ง : เที่ยวบินที่ DD4238 : 20.00-21.00 น.
ขากลับ ย่างกุ้ง-ดอนเมือง :  เที่ยวบินที่ DD4239 : 21.00-22.55 น.

ข้อควรปฏิบัติในการเข้า ศาสนสถานในพม่าทุกแห่ง

ควรสวมเครื่องแต่งกายที่เรียบร้อย ไม่ควรสวมกางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้นเข้าไป ผู้ชายสวมกางเกงขายาว ก่อนจะเข้าวัดต้องถอดหมวก ถอดแว่นดำ รองเท้า ถุงเท้า ถุงน่อง ต้องเดินเท้าเปล่า และ ศาสนสถานบางแห่งไม่อนุญาตให้ผผู้หญิงเข้าไปในเขตหวงห้าม


1. เจดีย์ไจ๊กะส่าน (Kyaik Ka San Pagoda) 

เจดีย์เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของเมืองย่างกุ้ง เจดีย์องค์นี้สร้างมาแล้ว 2 พันกว่าปี โดยกษัตริย์ชาวอินเดีย ซึ้งเป็นกษัตริย์ในยุคเดียวกับพระเจ้าอโศกมหาราช ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้าและพระธาตุส่วนอื่นๆ 32 องค์ ตามตำนาน ในสมัยที่เมืองย่างกุ้ง ได้กลายเป็นเมืองร้าง มียักษ์สองพี่น้อง ชื่อ “นองดอ องค์พี่ และ “นยีดอ”องค์น้อง ทำหน้าที่คุ้มคลองรักษาองค์พระเกศาธาตุและพระธาตุที่บรรจุไว้ ณ เจดีย์ไจ๊กะส่านแห่งนี้ไว้จนถึงปัจจุบัน

เจดีย์ไจ๊กะส่าน แห่งนี้ยังมี องค์เทพทันใจที่สามารถขอพรท่านได้ เทพทันใจที่นี่ลักษณะใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ดูใจดี แต่ละที่จะชี้ไม่เหมือนกันแล้วแต่ว่าชเวดากองอยู่ทางทิศไหนก็จะชี้ไปทิศนั้น จึงเป็นอีก 1 สถานที่ ที่ผู้มีจิตรศรัทธานิยมมาขอพรมากอีกแห่งหนึ่ง

2. เจดีย์ซู่เล (Sule Pagoda)

เป็นเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า สร้างมา 2,600 ปีแล้ว บริเวณรอบๆจะมีสถานที่ต่างๆอยู่ตรงนี้ เช่น สถานทูตไทย สถานทูตอินโดนีเซีย โรงแรมย่างกุ้ง ศาลาว่าการย่างกุ้ง โบสถ์คริสต์ซู่เลเป็นเจดีย์กลางเมืองที่มีทรง 8 เหลี่ยมตั้งแต่ฐานถึงยอด

กษัตริย์อะโตกเป็นคนบรรจุเส้นพระเกศาไว้ 1 เส้น ภาษาพม่าเรียก ซู่เล เป็นเจดีย์ทรง 8 เหลี่ยมพระพุทธเจ้าจะนั่งประทับ 4 ทิศ
ไม่ใช่องค์เดียวกัน  พม่ากับไทยมีความเชื่อเหมือนกันว่ามี 28 องค์ และที่อยู่ที่นี่เป็นองค์ที่ 25 26 27 28 ทั้ง 4 องค์นี้อยู่ในภัทรกัปเดียวกัน ภัทรกัปจะมีพระพุทธเจ้า 5 องค์ ฉะนั้นทุกเจดีย์จึงมีพระพุทธเจ้า 4 ทิศ ทิศตะวันออกจะเป็นพระพุทธเจ้ากกุสันโธ ทิศใต้พระพุทธเจ้าโกนาคมน ทิศตะวันตกพระพุทธเจ้ากัสสปะ ทิศเหนือพระพุทธเจ้าสมนโคดม แต่ละที่จะชี้ไม่เหมือนกันแล้วแต่ว่าชเวดากองอยู่ทางทิศไหนก็จะชี้ไปทิศนั้น

3. เจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon pagoda) 

พระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า เป็นเจดีย์ทองคำที่งดงาม ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมืองย่างกุ้ง มีความสูง 109 เมตร ประดับด้วยเพชร 544 เม็ด ทับทิม นิล และบุษราคัมอีก 2,317 เม็ด ตัวเจดีย์มีทองคำโอบหุ้มอยู่น้ำหนักถึง 1,100 กิโลกรัม โดยช่างชาวพม่าจะใช้ทองคำแท้ตีเป็นแผ่นปิดองค์เจดีย์ไว้รอบ รอบๆฐานพระมหาเจดีย์รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ นับร้อยองค์ มีซุ้มประตูสี่ด้าน 

เจดีย์ชเวดากองยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะเมีย และยังเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ซึ่งมีทั้งผู้คนชาวพม่า และชาวต่างชาติพากันสักการะทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย ชาวพม่าเขาเริ่มมาประมาณ 1-2 ทุ่ม เขาจะนั่งสวดมนต์ นั่งวิปัสสนา ที่นี่ปิดประมาณ 22.15 น. ตีสี่เริ่มเปิด ถ้าเป็นวัดที่อื่น 3 ทุ่มก็เริ่มปิดแล้ว ค่าเข้าชาวต่างชาติคนละหมื่นจ๊าด เผ่าในพม่า 135 เผ่าไม่ต้องเสียค่าเข้า ถ้ามาเจดีย์ชเวดากองจะต้องดูเพชร 76 กะรัตที่อยู่บนยอดเจดีย์ จะมีมุมสำหรับการดู หากอยู่ถูกจุดจะเห็นเป็นแสงสะท้อนเป็นสีเขียวๆ หรือบางคนเห็นสีขาวที่ยอดเจดีย์ 

รอบๆเจดีย์จะมีพระประจำวันเกิด ชาวพม่ามีความเชื่อเยอะบางเผ่าบอกว่ารดน้ำตามอายุของตัวเองบวกหนึ่ง ถ้าอายุ 30+1 เป็น 31 ก็ต้องรดพระพุทธรูป 31 ครั้ง เทวดานพเคราะห์ 31 ครั้ง เสา 31 ครั้ง 
สัตว์ประจำวันเกิด 31 ครั้ง บางเผ่าก็บอกว่ารดตามสัตว์ประจำวันเกิดของตัวเอง เช่น เกิดวันอังคาร 8 ขัน วันอื่น 10 12 15 ขัน มันยาก เขาเลยเอาแบบชาวพุทธรดน้ำกันไม่ว่าจะเกิดวันไหนก็จะรด 3 ขัน คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 

รอบเจดีย์ยังมีเจดีย์เล็กเจดีย์น้อยอีก มีแบบจำลองมาเป็นทองคำทั้งหมด มีเพชรพลอยทั้งหมด อีกที่หนึ่งเสาที่แกะสลักจะเป็นไม้สักทั้งหมด ฐานข้างล่างก็เป็นไม้สักแกะสลัก ถ้าอยากได้ลูก ได้หลานเขามาขอกันที่นี่ ถ้าอยากได้เด็กชายขอที่เทวดาอุ้มเด็ก ถ้าอยากได้เด็กหญิงก็มาขอเทวดาที่ถือดอกบัว

4. เจดีย์โบตะทาวน์  (Botahtaung Pagoda)

เจดีย์โบตาทาวน์ถือว่าเป็นจุดไฮไลท์ของย่างกุ้ง ที่คนไทยนิยมมาขอพรกับเทพทันใจนัตโบโบยี และเป็นเจดีย์เดียวในประเทศพม่าที่เราสามารถเดินเข้าไปในองค์พระมหาเจดีย์ได้ และได้ชมพระเกศาของพระพุทธเจ้าแท้ๆ
ซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นของพระพุทธเจ้าปั้นอยู่กับสีผึ้งจะเป็นก้อนกลมๆ เพราะตอนที่เขาค้นพบผอบ มันเกิดจากสงครามโลกครั้งที่ 2
มีการทิ้งระเบิดทำให้มาโดนพระมหาเจดีย์องค์นี้ และมีพ่อค้าชาวมอญ 2 คนพี่น้องมาอัญเชิญพระเกศาธาตุมาจากสุวรรณภูมิหรืออินเดีย
แล้วมาขึ้นท่านี้เป็นท่าแรก ภายในเจดีย์เป็นทองทั้งหมด ข้างในคนชอบมาจับจนดำไปบางส่วนแล้ว ระหว่างที่เดินภายในเจดีย์ก็จะมีภาพตำนานเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปของพระเกศาธาตุด้วย

เจดีย์แห่งนี้จะมีที่ให้เราสักการะขอพรได้ทั้งหมด 4 จุด

1.เทพทันใจ
2.เทพกระซิบ
3.พระพุทธรูปที่อยู่ในวังมัณฑะเลย์ หลวงพ่อนันอู
4.ไหว้พระเกศาธาตุพระพุทธเจ้า 
เทพทันใจที่นี่ถือเป็นเทพทันใจที่อายุยาวที่สุดในโลก เท่าพระพุทธเจ้าที่ประสูติไปแล้วทั้ง 4 พระองค์  วัดที่อื่นก็มีเทพทันใจแต่คล้ายๆเป็นเจ้าที่ แต่ตรงนี้เป็นเทวดาที่อายุยืนยาวของศาสนา

ส่วนเทพกระซิบท่านเป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนเรา ถ้าท่านมีชีวิตอยู่ก็ประมาณ 108 ปีแล้ว ท่านเคยเป็นลูกสาวเศรษฐี ตอนมีชีวิตอยู่ท่านก็ทำนุบำรุงศาสนา ผู้คนมีความเชื่อว่าท่านกลับชาติมาเกิด หลังจากเสียชีวิตไปพี่ชายของนางที่เป็นวิศวะก็มาสร้างรูปปั้นนาง เพื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นางได้ถวายไว้นางชอบถวายทองเป็นถาดๆ ให้แก่เจดีย์โบตาทาวน์ ผู้คนในพม่าก็มักจะมากราบไหว้ขอพร ปรากฏว่านางก็เหมือนมีชีวิตอยู่คอยช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ทำให้พม่านับถือพระนาง
เทพกระซิบคนพม่าจะมาขอพรเยอะที่สุด นิยมขอเรื่องที่ดินและการสอบต่างๆ  ส่วนเทพทันใจคนไทยจะมาขอพรเยอะที่สุด  ก็สามารถขอได้ทุกเรื่องแต่ขอได้เพียง 1 ข้อเท่านั้น

5. เจดีย์เยเลพญา (Kyaik Hwaw Wun Pagoda)

เจดีย์แห่งนี้เป็น 1 ในไม่กี่เจดีย์ในพม่า ซึ่งเป็นเจดีย์กลางน้ำ ที่เรายืนอยู่ตรงนี้เป็นสันดอนก็คือเกิดขึ้นอยู่กลางลำน้ำ มีความอัศจรรย์ก็คือมีการพบองค์พระ ซึ่งไม่ได้เป็นพระพุทธรูปเต็มองค์เลยเป็นที่มาของพระพุทธรูปที่กษัตริย์ท่านทรงสร้างขึ้นมาก็คือ งาซัดเยพญา งาซัดคือ 5 ชิ้น 5 ส่วนคือ เศียร มือทั้ง 2 ข้าง และขา เพราะฉะนั้นลำตัวจะเป็นไม้เท่านั้น ประดิษฐานอยู่ในพระมหาเจดีย์ ซึ่งเราจะใช้คำพูดว่าเป็นพระสมปรารถนาจะเป็นจุดแรกเมื่อเราขึ้นจากเรือขึ้นมาก็จะพาไปกราบไหว้ ก่อนไหว้ก็จะมีดอกไม้ธูปเทียน และมีอาหารปลา มาที่นี่จะต่างกับการไปไหว้ที่อื่นเพราะจะมีอาหารซึ่งเป็นเสบียงบุญให้กับปลานำบุญนี้ไปบอกกล่าวองค์พระอุปคุต 

เจดีย์เยเลพญาสำคัญก็คือไหว้สักการะพระอุปคุต เจดีย์องค์นี้จะมีความแตกต่างจากเจดีย์อื่นๆในพม่า เจดีย์นี้เป็นทรงเหลี่ยม สร้างขึ้นมาประมาณพันกว่าปี ในยุคหลังของชเวดากอง ด้านในประดิษฐานพระเกศาธาตุไว้ 1 เส้น กษัตริย์ผู้ที่ดำริสร้างคือองค์ที่ถือหม้ออยู่ เป็นคนมอญ คนมอญจะมีรูปหน้าคล้ายๆคนยุโรป โครงหน้าเขาจะสูง นั่นคือกษัตริย์มอญ ส่วนอีกองค์ก็คือผู้ที่อัญเชิญพระเกศาธาตุ กษัตริย์สร้างเจดีย์นี้ขึ้นมาเพราะสถานที่แห่งนี้อยู่บนน้ำ สังเกตว่ามีน้ำขึ้นน้ำลง เพราะฉะนั้นกษัตริย์ที่เดินทางมาที่นี่ก็ขอไว้ 3 ข้อ คือ 
1.เวลาน่านน้ำลากก็อย่าให้เจดีย์นี้ หรือพื้นดินนี้น้ำท่วม 
2.ใครที่เดินทางมากราบสักการะเจดีย์นี้ไม่ว่าจะเป็นหน้าเทศกาลประจำปีก็ขออย่าให้คนแน่นเนืองเกินวัด 
3.ขอให้อยู่คู่กับพระศาสนาไปอีก 5 พันปี 
ดอกไม้ที่ถวายจะมีธง แต่ธงนี้ไม่ใช่ธงพม่าแต่เขาเรียกว่าธงศาสนา ชาวพม่าเวลาคนเขาไหว้กับคนเชียงใหม่จะไหว้ลักษณะเดียวกันจะมีธง 12 นักษัตร ซึ่งถามว่าวัฒนธรรมเอามาจากไหนก็คือมาจากพม่า เพราะพม่าเคยไปปกครองล้านนาอยู่ 100 กว่าปี วัฒนธรรมตรงนี้เลยเหมือนกัน ดอกไม้นี้ไม่มีใบชัยชนะแต่เป็นดอกไม้ท้องถิ่นแทน และมีดอกสัจจะ และธูปเทียนแค่นี้ก็ถือว่าครบแล้ว 

6. วัดเชวโปวิน (Shwe Bone Pwint Pagoda) 

เจดีย์แก้กรรม ตามตำนานกล่าวว่า มีพ่อค้า 2 พี่น้อง ได้อัญเชิญพระเกศาธาตุจากประเทศอินเดีย เพื่อสร้างเจดีย์ชวดากอง 
ในระหว่างทางได้หยุดพัก ณ บริเวณเจดีย์ชเวโพนพวินในปัจจุบัน ได้เกิดแสงประกายทองออกมาปริเวณดังกล่าว จึงได้อัญเชิญสร้างองค์เจดีย์ขึ้นมา ตามความเชื่อผู้มีจิตรศรัทธานิยมมากราบไหว้บูชาเพื่อปรับดวง เสริมดวง เสริมบารมี เพิ่มพลัง ให้ดียิ่งขึ้น

7. วัดแม๊ะละมุ (Mae lamu Pagoda) 

แม๊ะละมุ เป็นพระนามของพระมารดาของพระเจ้าโอคาลาปะ กษัตริย์ผู้สร้างพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ภายในบริเวณวัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปหลากหลายปางมีอายุหลายสิบปีให้ท่านได้บูชาสักการะ และมีการจำลองพุทธประวัติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านสามารถร่วมบุญถวายแผ่นกระเบื้องได้ที่วัดแห่งนี้ ตามความเชื่อ การร่วมบุญถวายกระเบื้อง ผลบุญกุศลจะช่วยเสริมดวงตำแหน่งหน้าที่การงานและการสร้างหลักปักฐาน



รูปภาพจาก : ทีมงานควอลิตี้เอ็กซ์เพรส