มหานครที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ความเจริญที่ไม่หยุดนิ่ง ขึ้นมาเป็นมหานครที่สำคัญของโลก เมืองเศรษฐกิจที่ไม่เคยหลับใหล ศูนย์กลางความเจริญในด้านต่างๆ ของภูมิภาค ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การเงิน การลงทุน รวมถึง ด้านแฟชั่น และการท่องเที่ยว มหานครเซี่ยงไฮ้ จึงนับเป็นความภาคภูมิใจของชาวจีน โดยถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของจีนยุคใหม่ ในด้านความก้าวหน้าและความทันสมัย
ซึ่งก่อนจะมาเป็นมหานครที่น่าหลงไหล ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายทั่วโลกนั้น มหานครแห่งนี้ก็มีอดีตอันน่าเจ็บปวดสำหรับคนจีนในยุคนั้นเหมือนกัน นับตั้งแต่ สงครามฝิ่น ค.ศ.1840 ที่จีนแพ้สงคราม ทำให้เกิดการทำสนธิสัญญานานกิง ทำให้จีนในยุคนั้น เป็นที่แสวงหาผลประโยชน์ของพวกฝรั่งที่หลั่งไหลกันเข้ามาขูดเลือด ขูดเนื้อ คนท้องถิ่น เศรษกิจ การเมืองของเซี่ยงไฮ้ในขณะนั้น ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จนกระทั่งสนธิสัญญานานกิงสิ้นสุดลง ในวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ.1949 เซี่ยงไฮ้ได้อธิปไตยในพื้นที่เขตเช่าคืน ก่อนการสถาปนาเป็น สาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการ
จากนั้นภายใต้การปกครองของ "เติ้งเสี่ยวผิง" อดีตผู้นำสูงสุดแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน คนดังแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ ดำเนินนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ จากนั้นมาเซี่ยงไฮ้ก็ถูกกำหนดให้เป็นเมืองเศรษฐกิจพิเศษ ที่นำมาซึ่งการลงทุนมหาศาล ทั้งการพัฒนาเศรษกิจ ด้านคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีอวกาศ ไปจนถึงการท่องเที่ยว สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากมายหลายล้านคน ต่อปี นอกจากควาทันสมัย ความสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นการคมนาคมขนส่ง ศิลปวัฒธรรม ความศรีวิไล แล้ว การผสมผลาน ระหว่าง ความเก่าแก่และความทันสมัย กับการผสมผสานวัฒนธรรมจีนและตะวันตก เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ก็เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง ที่ทำให้มหานครแห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนอย่างมากมาย ซึ่งเซี่ยงไฮ้จะแบ่งเมือง เก่าและใหม่ ด้วยแม่น้ำหวงผู่ โดยฝั่งผู่ซี คือฝั่งเมืองเก่า และ ผู่ตง คือฝั่งเมืองใหม่
ซึ่งฝั่งเมืองเก่า หรือ ฝั่งผู่ซี จะมีที่เที่ยวสำคัญๆ หลายแห่งเลยทีเดียว ที่คุ้นๆ หูเราจะเป็น หาดไว่ทาน หรือ เดอะบันด์ ถนนริมแม่น้ำที่มีความยาว 1.5 กม. ไปตามริมแม่น้ำหวงผู่ ฝั่งตะวันตก เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดอีกที่นึงสำหรับการชมเมืองใหม่ อาคารส่วนใหญ่จะเป็นศูนย์การเงิน เช่นธนาคาร ตึกประกันภัย และด้วยการปลูกสร้างแบบสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ทำให้ถนนแห่งนี้เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลหลายล้านคน ที่ครั้งหนึ่งมาเซี่ยงไฮ้ทั้งที ต้องมาเยือน แน่นอน
ซินเทียนตี้ ย่านฮิปเตอร์เมืองจีน ถนนช้อปปิ้งที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นร้าน ชา กาแฟ ร้านเบเกอร์รี่ และห้างช้อปปิ้งแบรนหรู แบรนดัง และไม่เพียงแต่คนจีน แต่รวมไปถึงนักช้อปทั่วโลก ย่านนี้ถือว่าเป็นย่านที่มีนักท่องเที่ยว มากที่สุดเลยก็ว่าได้
สวนอวี่หยวน สวนสาธารณะกลางนครเซี่ยงไฮ้ และติดกัน คือ ตลาดเฉินหวังเมี่ยว หรือ ตลาดร้อยปี เซี่ยงไฮ้ เป็นตลาดเก่าของผู่ตง เมืองเซี่ยงไฮ้ ตลาดที่ยังคงความเก่าแก่ไว้ได้อย่างดี ร้านอาหารที่มากมาย แถมมีรสชาติถูกปากนักท่องเที่ยว ดึงดูดนักรีวิว รายการอาหารจากทั่วโลก ต้องมาแวะเวียนที่นี่ ที่พลาดไม่ได้คือ ร้านหมันโถว “หนานเสียง” ขายซาลาเปาขนาดจิ๋วหรือ เสี่ยวหลงเปา ที่มีประวัตินานกว่า 100 ปีแล้ว และอื่นๆ อีกมากมายที่ ที่บล็อกเกอร์ชื่อดังทั่วโลกต่างลงความเห็นว่า ฝั่งเมืองเก่า แต่เก๋ไก๋ เต็มไปด้วยสเนห์ที่คุณจะได้เห็นเพียงที่นี่ที่เดียว
และอีกฟากฝั่งของแม่น้ำหวงผู่ คือฝั่ง ผู่ตง เมืองใหม่ที่รวบรวมความเจริญ โลกอนาคตของจีน เขตเศรษฐกิจของจีน เพียงแค่เท้าสัมผัสฟุตบาตของจีน ก็สัมผัสได้ถึงความมั่งคั่ง เม็ดเงินมหาศาล ของย่านนี้ ไม่เพียงแต่เป็นเขตเศรษฐกิจ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ในย่านนี้ ผสมกับความทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น
หอไข่มุกตะวันออก หอส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์สูง 468 เมตร สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งถือว่าเป็นหอคอยที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกเมื่อสร้างเสร็จ และในปัจจุบันสูงเป็นอันดับ 5 ด้านบนจัดเป็นจุดชมวิวในระดับความสูง 267 เมตร สามารถมองเห็นวิว ปัจจุบันนับได้ว่าเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองเซี่ยงไฮ้ ที่นอกจากจะใช้ในด้านการสื่อสารแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองอีกด้วย
บริเวณใกล้เคียงยังมีตึกสำคัญของนครเซี่ยงไฮ้ อย่าง จินเหมาทาวเวอร์ ตึกที่มีความสูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลกจากความสูงหลังคา และอันดับที่ 7 ของโลกเมื่อวัดรวมถึงยอดสูงสุด โดยใช้เป็นสำนักงานและโรงแรมเซี่ยงไฮ้แกรนด์ไฮแอท อีกทั้งยังมีจุดชมวิว ในชั้นที่ 53-87 และชั้นที่ 88 และยังมี สกายวอล์ค เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินเล่นเพื่อดูวิวมุมสูงได้อย่างเต็มที่
Shanghai World Financial Center (SWFC) หรือ ศูนย์การเงินโลกเซี่ยงไฮ้ เป็นที่สูงที่สุดในจีน ก่อนถูกโค่นด้วยตึก Shanghai Tower ตึก Shanghai World Financial Center (SWFC) สูงราว 500 ม. มี 101 ชั้น (ห้องชมวิวอยู่ชั้นที่ 100) ลักษณะเด่นของตึกนี้คือมียอดตึกเป็นช่องเปิดรูปสี่เหลี่ยม ทำให้คนทั่วไปเรียกกันว่าเป็น “ตึกที่เปิดขวด”
และน้องใหม่อย่าง Shanghai Tower ตึกที่สูงที่สุดในกลุ่มตึกที่ติดกัน 3 หลัง ในเขต ผู่ตง ที่มาเพื่อโค่นรุ่นพี่อย่าง จินเหมาทาวเวอร์ SWFC กลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในจีน และสูงที่สุดอันดับ 2 ของโลก ไปแล้วเรียบร้อย รองจากตึก Burj Khalifa ในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังมีปล่องลิฟต์ยาวที่สุดในโลกอีกด้วย โดยตึกนี้มีอาคารสูงประมาณ 632 เมตร (2,073 ฟุต) และมี 121 ชั้น ตึกรูปเกลียวที่สูงกว่า 632 ม. มี 128 ชั้น (จุดชมวิวอยู่ชั้น 119) โดยเป้าหมายการก่อสร้างอาคาร Shanghai Tower ขึ้นมา เพื่อเพิ่มสมรรถนะการสร้างศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศ ของนครเซี่ยงไฮ้ สมกับเป็นโลกอนาคตของนครเซี่ยงไฮ้และจีนอย่างมาก
Disney land shanghai ครั้งแรกของดิสนีย์แลนด์บนแผ่นดินใหญ่ ในทวีปเอเชีย การันตีความยิ่งใหญ่โดยเป็นสวนสนุกของ Disney ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและเป็น อันดับ 2 ของโลก ทั้งเครื่องเล่นใหม่เอี่ยม โชว์ที่อลังการตระการตา และอย่าพลาดชมการแสดงพลุที่ตระการตา ไม่เหมือนที่ไหนอย่างแน่นอน...
มหานครเซี่ยงไฮ้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว อีกมากมาย พร้อมให้คุณได้สัมผัส เท่านี้ก็คุ้มค่าต่อการไปเยือน สักครั้งหนึ่งในชีวิต เครดิต : ทีมงานควอลิตี้ เอ็กซ์เพรส