สนามบินดอนเมือง กรุงเทพ-สกลนคร-นครพนม-พระธาตุเรณู-พระธาตุพนม- พระธาตุน้อยศรีบุญเรือง-พญาศรีสัต ตนาคราช-บึงกาฬ-หินสามวาฬ
04.00 น.
คณะเดินทางพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์สายการบินนกแอร์โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวกเรื่องบัตรโดยสารที่นั่งและเช็คสัมภาระก่อนเดินทาง
06.10 น.
ออกเดินทางสู่ สกลนคร โดยเที่ยวบินที่ DD360 (DMK-SNO 07.00-08.10)
**ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงไฟล์ทบินและสายการบิน
***ไม่รวมน้ำหนักกระเป๋าสำหรับโหลดใต้ท้องเครื่อง ท่านสามารถซื้อน้ำหนักกระเป๋าก่อนเดินทาง 3 วัน (มีค่าใช้จ่าย)
08.10 น.
เดินทางถึง สนามบินสกลนคร นำท่านขึ้นรถตู้ปรับอากาศเดินทางสู่จังหวัดนครพนม
นำท่านสักการะ พระธาตุเรณู จำลองมาจากพระธาตุพนมองค์เดิม ภายในเจดีย์บรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน เพชรนิลจินดา หน่องา เครื่องกกุธภัณฑ์ของพระยาและเจ้าเมือง รวมถึงสิ่งของอื่นๆ ที่ชาวบ้านบริจาคด้วแรงศรัทธา
จากนั้นนำท่านสักการะ พระธาตุพนม พระธาตุประจำคนเกิด "ปีวอก" และ "วันอาทิตย์" ภายในพระธาตุได้บรรจุอุรังคธาตุหรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 1)
บ่าย
เดินทางสู่ พระธาตุน้อยศรีบุญเรือง บรรจุพระอุรังคธาตุ จากพระมหากัสสปะเถระผู้อัญเชิญมาจากชมพูทวีปเพื่อมาประดิษฐานที่ภูกำพร้า แต่ว่าไม่สามารถจะแบ่งพระอุรังคาตุให้ได้ พระมหากัสสปะเถระจึงได้ เหาะกลับไปอัญเชิญพระอังคารของพระพุทธเจ้าแบ่งมาให้แทน สร้างขึ้นในสมัยพระยานันทเสนซึ่งเป็นกษัตริย์ครองเมืองศรีโคตรบูรณ์ เดิมตั้งดินแดนที่ใต้ปากเซบั้งไฟ ประเทศลาว ต่อมาหลังจากพระยานันทเสนทิวงคตได้เกิดโรคระบาดจึงได้ย้ายเมืองมาตั้งเหนือพระธาตุพนมในดงไม้รวก จึงขนานนามเมืองขึ้นว่า มรุกขนคร แล้วได้มีการสร้างพระธาตุน้อยเกิดขึ้นเพื่อบรรจุพระอังคารของพระพุทธเจ้า ให้เป็นพระธาตุบริวารขององค์พระธาตุ
หลังจากนั้นนาท่านสักการะ พญาศรีสัตตนาคราช พญานาคขดหาง 7 เศียร มีลาตัวเดียวขนาดใหญ่ประดิษฐานบนแท่นฐานแปดเหลี่ยม กว้าง 6 เมตร ความสูงทั้งหมดรวมฐาน 15 เมตร สามารถพ่นน้ำได้ แสดงถึงความเชื่อความศรัทธาต่อเรื่องพญานาคของชาวไทย และชาวลาวที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้าโขง
ชมพระอาทิตย์ตกที่ จุดชมวิว หินสามวาฬ หนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่ป่าภูสิงห์ ตั้งอยู่ในอำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ ในเขตพื้นที่อนุรักษ์เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มของก้อนหินรูปทรงต่างๆ ที่สวยงามแปลกตาและถ้ำกระจายอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ สามารถแวะชมได้หลายจุด รวมถึงหินสามวาฬ ที่มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง เหตุผลที่เรียกว่า หินสามวาฬ เพราะลักษณะของจุดชมวิวนี้เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ 3 ก้อน รูปร่างคล้ายปลาวาฬเรียงกันยื่นออกไปสู่หน้าผา หากมองในมุมสูงจะเหมือนกลุ่มวาฬที่มีพ่อ แม่ ลูก จึงเรียกกันว่า หินสามวาฬ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่นของภูสิงห์ สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า เบื้องหน้าคือ วิวของผืนป่าเขียวขจีและสายหมอกบาง หินสามวาฬสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และตลอดทั้งวัน
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 2)
ที่พัก
เข้าสู่ที่พัก BK PLACE หรือ THE ONE HOTEL หรือเทียบเท่า