เส้นทางนางฟ้า MANAROLA , BLUE GROTTO , DOLOMITES อิตาลีเหนือจรดใต้ 10 วัน 7 คืน โดยสายการบิน EMIRATES (EK)

เส้นทางนางฟ้า MANAROLA , BLUE GROTTO , DOLOMITES  อิตาลีเหนือจรดใต้ 10 วัน 7 คืน โดยสายการบิน EMIRATES (EK)
  • ทัวร์ : Italy [อิตาลี] Europe [ยุโรป]
  • เที่ยวเมือง : Bolzano (โบลซาโน) Milan (มิลาน) Naples (เนเปิลส์) Parma (ปาร์มา) Rome (โรม) La Spezia (ลาสเปเซีย)
  • รหัสโปรแกรม : T12364
  • Code : QQGO3MXP-EK022
  • ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
  • ระยะเวลา : 10 วัน 7 คืน
ราคาเริ่มต้นที่
ไฮไลท์ทัวร์ Highlight
ถ่ายรูปมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน - ชอปปิงแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล – อุทยานเทือกเขาโดโลไมท์ - ทะเลสาบคาเรซซา - ขึ้นกระเช้า Seceda - โบลซาโน – ทะเลสาบมิสุริน่า - ทะเลสาบเบรียส - เดินไต่เขาสู่จุดชมวิว คาร์ดินี่ ดิ มิสุริน่า - โบลซาโน - หมู่บ้านซานตา แมดดาเลนา - ขึ้นกระเช้าสู่ยอดแอลป์ดิซิอุสซี่ - ปาร์มา - นําท่านโดยสารรถไฟสู่มู่บ้านชิงเกว แตร์เร - หมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ - หมู่บ้านมานาโรล่า -หมู่บ้านมอนเตรอสโซ อัล มาเร - กรุงโรม – เมืองปอมเปอี – อมาลฟี่โคสท์ – โพสิตาโน - ซอร์เรนโต - ล่องเรือ Hydrofoil สู่เกาะคาปรี -ชมถ้ำบลูกรอตโต -เนเปิลส์ - โรม – นครรัฐวาติกัน – ถ่ายรูปกับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ - ถ่ายรูปโคลอสเซี่ยม -
ระยะเวลาเดินทาง
ราคาเริ่มต้น
สถานะ
13 มิ.ย. 2568 - 22 มิ.ย. 2568
95,900
จอง
04 ก.ค. 2568 - 13 ก.ค. 2568
95,900
จอง
11 ก.ย. 2568 - 20 ก.ย. 2568
96,900
จอง
11 ต.ค. 2568 - 20 ต.ค. 2568
99,900
จอง
รายละเอียดโปรแกรม
วันที่ 1

กรุงเทพ

23.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
วันที่ 2

ดูไบ – มิลาน

03.30 น. ออกเดินทางสู่กรุงดูไบด้วยเที่ยวบิน EK371
06.50 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
09.45 น. ออกเดินทางสู่มิลานด้วยเที่ยวบิน EK205
14.20 น. ถึงสนามบินมิลาน ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นเดินทางสู่เมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก CROWNE PLAZA MILAN LINATE หรือเทียบเท่า
วันที่ 3

มิลาน – อุทยานเทือกเขาโดโลไมท์ - ทะเลสาบคาเรซซา - ขึ้นกระเช้า Seceda - โบลซาโน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โบลซาโน (Bolzano)เมืองที่ถือว่าเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์และเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ เนินเขาที่เป็นป่าทุ่งหญ้า ไร่องุ่นและเทือกเขาโดโลไมท์ในทางทิศตะวันออก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางชมวิวเทือกเขาโดโลใมท์ด้วยการขึ้นกระเช้าซิเคด้า (Seceda Cable Car) ซึ่งเป็นกระเช้าที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองออร์ทิเซ่ มีความสูงประมาณ 2,519 เมตร โดยบนยอดเขานั้นจะมีรูปปั้น “Summit Cross” หรือรูปปั้นที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน ซึ่งเป็นจุดไฮไลค์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน อิสระให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ของโดโลไมท์โดยรอบ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก STADT HOTEL CITTA หรือเทียบเท่า
วันที่ 4

โบลซาโน – ทะเลสาบมิสุริน่า - ทะเลสาบเบรียส - เดินไต่เขาสู่จุดชมวิว คาร์ดินี่ ดิ มิสุริน่า -- โบลซาโน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเบรียส ( Lake Braies ) หรือ (Pragser Wildsee) ทะเลสาบที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมต์ และยังได้เป็นส่วนหนึ่งใน มรดกโลก (Unesco) อีกด้วย นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบมิสุริน่า (Misurina Lake) ทะเลสาบสีเขียวมรกตที่รายล้อมไปด้วยป่าสนแห่งเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูง 1,754 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่เป็นทะเลสาบที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งในแถบ Dolomite นี้เลย เนื่องด้วยความสวยงามของทะเลสาบ บางเวลาน้ำนิ่งราวกระจกเงาใส ที่นักท่องเที่ยวจะแวะเวียนมาอิสระท่าน ถ่ายภาพความงดงามของทะเลสาบจนเต็มอิ่ม
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

นำท่านเดินไต่เขาขึ้นสู่ ”จุดชมวิว คาร์ดินี่ ดิ มิสุริน่า” (Cadini di Misurina) ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเขตอุทยานโดโลไมท์ เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่ใกล้กันกับ Tre Cime di Lavaredo (The Three Peaks of Lavaredo) ที่เป็นไฮไลท์อีกแห่งหนึ่งของโดโลไมท์ ซึ่งประกอบด้วย ภูเขาหินขนาดมหืมา 3 ลูกที่วางตัวเรียงกันในเเนวตะวันออก-ตะวันตก โดยท่านสามารถถ่ายรูปโดยมี Tre Cime di Lavaredo เป็นภาพเบื้องหลังได้ นอกจากนั้นทิวทัศน์โดยรอบจากจุดชมวิวนี้ยังเห็นทิวทัศน์ความสวยอลังการของอุทยานโดโลไมท์โดยรอบอีกด้วย (การเดินทางขึ้นเขาจะขึ้นกับสภาพเป็นหลักในกรณีที่ไม่สามารถเดินขึ้นเขาได้จะเปลี่ยนไปถ่ายรูปคู่กับ Tre Cime di Lavaredo จากด้านล่างแทน ระยะทางเดินขึ้นเขาจะอยู่ที่ 3.2 กิโลเมตร ในกรณที่ท่านไม่ขึ้นไปกับคณะก็สามารถนั่งรอในรถบัสได้)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก STADT HOTEL CITTA หรือเทียบเท่า
วันที่ 5

โบลซาโน - หมู่บ้านซานตา แมดดาเลนา - ขึ้นกระเช้าสู่ยอดแอลป์ดิซิอุสซี่ - ปาร์มา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ “หมู่บ้านซานตา แมดดาเลนา” (Santa Maddalena) เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเบลูโน โดยคำว่า Santa Maddalena หรือ St. Magdalena ในภาษาเยอรมัน คือหมู่บ้านวิวสวรรค์กลางพื้นที่หุบเขาในชุมชน Val di Funes หมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาที่ตั้งอยู่ใต้เงาของเทือกเขาโดโลไมท์ ถือว่าเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กแต่มีทัศนียภาพที่งดงามแบบอลังการพร้อมสูดอากาศอันแสนบริสุทธิ์ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่โบลซาโน นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองออร์ทิเซ่ (Ortisei) ศูนย์กลางของแถบอุทยานเทือกเขาโดโลไมท์ (Dolomites) โดยเมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขา มีเทือกเขาล้อมรอบสวยงาม อิสระให้ท่านพักผ่อนเพลิดเพลิน กับอากาศอันบริสุทธิ์ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา จากนั้นนำท่านขึ้นกระเช้า (Cable Car) เราจะพาขึ้นสู่บนเนินเขาที่เรียกว่า แอลป์ ดิ ซุสเซ่ (Alpe di Siusi) นำท่านชมวิวทิวทัศน์บนทุ่งหญ้าราบเลียบบนภูเขา ที่ได้ขึ้นชื่อว่า “กว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป” ให้ท่านได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของทิวทัศน์มุมสูงของเทือกเขาโดโลไมท์ เวลาที่มองลงไปด้านล่างจะยังเห็นบ้านเรือนในสไตล์ยูโรเปี้ยนรีสอร์ทกระจายอยู่ตามไหล่เขา อิสระให้ท่านเดินเล่น ถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้ากลับลงสู่ด้านล่าง ***การนั่งกระเช้า หากสภาพอากาศหรือมีเหตุขัดข้องไม่สามารถขึ้นได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้นั่งกระเช้าเพื่อความปลอดภัยและในกรณีที่กระเช้าปิดจะเปลี่ยนไปขึ้นเขาข้างเคียงแทน***
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

จากนั้นเดินทางสู่จากนั้นเดินทางสู่ เมืองปาร์มา (Parma) เมืองในแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา โดยเมืองนี้เป็นต้นกำเนิดแฮมและพาร์เมซานชีส มีแฮมที่มีชื่อเสียงอย่างปาร์มาแฮม (Parma Ham) ซึ่งโดดเด่นด้วยลักษณะพิเศษ คือ มีกลิ่นหอม รสชาติเค็มและออกหวานนิดๆ ทำมาจากขาหมู ที่นำไปบ่มไว้ในถ้ำ ซึ่งมีอากาศเย็น นานถึง 6 เดือน หรือนานแรมปี อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งของขึ้นชื่อของเมือง เช่น ชีสพาเมซาน หรือ Parmigiano Reggiano ที่ชาวอิตาเลี่ยนนิยมทานเป็นชีสยอดนิยม รวมทั้งแฮมหลากหลายชนิด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปาร์ม่าแฮม)
ที่พัก GRAND HOTEL FLORA หรือเทียบเท่า
วันที่ 6

ปาร์มา - นําท่านโดยสารรถไฟสู่มู่บ้านชิงเกว แตร์เร - หมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ - หมู่บ้านมานาโรล่า -หมู่บ้านมอนเตรอสโซ อัล มาเร - กรุงโรม

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองลา สเปเซีย (La Spezia) เมืองในเขตลิกูเรีย ตอนเหนือของอิตาลีอยู่ระหว่างเมืองเจนัว และ ปิซ่า ในบริเวณอ่าวลิกูเรหนึ่งในอ่าวที่มีความสําคัญทางด้านการค้าและการทหาร นําท่านโดยสารรถไฟสู่ หมู่บ้านชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี ที่มีความหมายว่า “ดินแดนทั้งห้า (Five Land)” ตั้งบนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่ MONTEROSSO AL MARE, VERNAZZA, CORNIGLIA, MANAROLA และ RIOMAGGIORE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้ มีหุบเขาล้อมรอบ ประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้อีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมหมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ (Rio –Maggiore) อยู่ทางตอนใต้สุดของหมู่บ้านทั้งห้า เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์ อิสระให้ท่านชมความงดงามและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนําท่านสู่หมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) อาจได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง แต่มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 มีความสวยงามที่ไม่แพ้หมู่บ้านอื่นๆ มีไวน์ท้องถิ่นที่ปลูกในพื้นที่ที่รสชาดเยี่ยมอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านมอนเตรอสโซ อัล มาเร ( Monterosso al Mare) เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่และกว้างมากที่สุด มีหาดทรายยาวสวยงามที่สุดในชิงเกว แตร์เร
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

หลังจากนั้นสู่ กรุงโรม (Rome) เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต่างเดินทางไปกรุงโรม เพื่อชื่นชมกับศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขาทั้ง 7 ริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ตอนกลางของประเทศ โรมเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตกและในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก HAMPTON BY HILTON หรือเทียบเท่า
วันที่ 7

กรุงโรม – เมืองปอมเปอี – อมาลฟี่โคสท์ – โพสิตาโน - ซอร์เรนโต

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นเดินทางสู่ เมืองปอมเปอี (Pompeii) เมืองโบราณที่ถูกฝังตัวอยู่ใต้ลาวาจากการระเบิดของภูเขาไฟวิสุเวียส ซึ่งก่อนหน้านั้นเป็นเมืองที่เคยเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรโรมันโบราณอันรุ่งเรื่องมาก่อน ความจริงเหล่านี้ถูกปรากฏขึ้นหลังการขุดค้นพบซากโบราณใต้ดินต่างๆ และปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งขนาดใหญ่ที่เราจะสามารถจินตนาการย้อนกลับไปสู่ยุคอันเจริญของเมืองท่าแห่งนี้ได้ นำท่านชม เมืองโบราณปอมเปอี ที่ถูกปกคลุมไว้ด้วยลาวาเมื่อครั้งเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟวิสุเวียส (Mt.Vesuvius) จากการตั้งใจขุดค้นซากที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ของผู้คน สัตว์เลี้ยงต่างๆ ที่เหมือนถูกหยุดอยู่ ผ่านกาลเวลาอันยาวนาน ที่ยังบ่งบอกถึงความเจริญในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี ทั้งศูนย์กลางการค้า ศาสนา และวัฒนธรรม ที่ตราตึงไว้บนผืนดินแห่งเมืองนี้รอให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสได้แห่งภัยธรรมชาติที่ไม่มีใครคาดคิดและไม่อาจหลีกหนีได้ทัน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

นำท่านออกเดินทางสู่ เส้นทางชมธรรมชาติอันงดงามของบ้านเรือนที่ถูกสร้างอย่างประณีตบริเวณผาสูงชายฝั่งที่เรียงรายอย่างงดงามติดอันดับโลก เส้นทางคดเคี้ยวเลาะริมผา กับบ้านเรือนที่ถูกสร้างอย่างลงตัวและงดงามอย่าง อมาลฟี่โคสท์ (Amalfi Coast) ทำให้ผู้มาเยือนต้องตะลึงในความงดงามและยกย่องให้เป็นอีกแห่งที่สวยติดอันดับโลกเลยทีเดียว นอกจากทิวทัศน์อันงดงามที่นี่ยังมีประวัติศาสตร์เป็นเมืองท่าอันแข็งแกร่งและมั่งคั่งมาตั้งแต่อดีตกาลอีกด้วย จากนั้นเดินทางสู่ เมืองโพสิตาโน่ (Positano) เมืองเล็กๆแต่มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหลไปกับบรรยากาศชวนมองอย่างไม่กล้ากระพริบตากันเลยตลอดเส้นทางที่ผ่าน จึงทำให้เมืองชายฝั่งทะเล ในแคว้นคัมพาเนีย แห่งอิตาลีใต้นี้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งปี นำท่านเดินทางสู่ เมืองซอร์เรนโต (Sorrento) เมืองชายฝั่งทะเลแหล่งพักผ่อนของบรรดานักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ บรรดาชนชั้นสูงที่นิยมมาพักผ่อนตากอากาศ ณ เมืองแห่งนี้ ที่ผ่านการยึดครองภายใต้อาณาจักรใหญ่ที่มั่งคั่งทั้งหลายไม่ว่า อีทรัสกัน กรีด โรมัน ไบแซนไทน์ ลองโกบาร์ด และนอร์มัน อีกทั้ง ยังได้รับวัฒนธรรมอันหลั่งใหลจากบรรดาเมืองมั่งคั่งที่เต็มไปด้วยค่านิยมแห่งชนชั้นสูงเช่นฝรั่งเศสและสเปนอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก GRAND HOTEL FLORA หรือเทียบเท่า
วันที่ 8

ซอร์เรนโต - ล่องเรือ Hydrofoil สู่เกาะคาปรี -ชมถ้ำบลูกรอตโต -เนเปิลส์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านออกเดินทางไปยังท่าเรือ ล่องเรือ Hydrofoil สู่เกาะคาปรี (Capri) ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 45 นาที ก็จะถึงบริเวณท่าเรือหลักของเกาะ นำท่านชมความงามของ “ถ้ำบลูกรอตโต”้(BLUE GROTTO) โดยถ้ำนั้นถูกค้นพบเมื่อปี 1826 มีขนาดกว้าง 45 เมตรและยาว 54 เมตร สูง 15 เมตรทางเขา้ถ้า สูงจากระดับน้ำทะเลเพียงเมตรเศษๆ (การเข้าชมถ้ำนั้นจำเป็นต้องดูน้ำขึ้นน้ำลงก่อน เพื่อความปลอดภัย ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าชมถ้ำได้ จะเปลี่ยนไปเที่ยวเมืองคาปรีแทน) นำท่าน ขึ้นรถราง (Funicular) สู่ตัวเมืองเก่าด้านบนเกาะคาปรี (Capri Center) นำท่านเดินชมเมืองคาปรี ที่บรรยากาศสวยงามน่ารัก อิสระให้ท่านเดินเล่นแบบเต็มอิ่มบนเกาะที่มีเสน่ห์ เลือกซื้อสินค้าของฝาก ของที่ระลึก รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากเลม่อน (Lemon) พืชท้องถิ่นอันเลื่องชื่อที่กลายเป็นสัญลักษณ์ เลือกนาฬิกายี่ห้อท้องถิ่นแต่ได้มาตรฐานระดับโลก หรือนั่งดื่มกาแฟริมชายฝั่ง ชมบ้านเมืองที่สร้างลดลั่นตามไหล่เขาในบรรยากาศการพักผ่อนสบายๆ สไตล์อิตาลีตอนใต้ที่สวยงามไม่เหมือนใคร
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางสู่ La Reggia Designer Outlet ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น ADIDAS ,COACH, NIKE, CALVIN KLEIN, DIESEL , FURLA และอื่นๆอีกมากมาย *** เนื่องจาก OUTLET จะปิดทำการในวันอาทิตย์ ถ้าหากคณะใดตรงกับวันอาทิตย์ในวันนั้น ทางบริษัทขอสลับโปรแกรมไปในวันถัดไปแทน*** จากนั้นเดินทางสู่ เมืองเนเปิ้ลส์ (Naples) เมืองหลวงแห่งแคว้นกัมปาเนีย ท่าเรือสำคัญที่เหล่าเรือสำราญท่องเที่ยวในเขตเมดิเตอร์เรเนี่ยนมาพักเทียบท่า ถือเป็นเมืองใหญ่ ทางตอนใต้ของอิตาลี
เย็น อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก HOTEL GIULIA NAPOLI หรือเทียบเท่า
วันที่ 9

เนเปิลส์ - โรม – นครรัฐวาติกัน – โคลอสเซี่ยม – น้ำพุเทรวี - บันไดสเปน - สนามบิน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่นครรัฐวาติกัน (Vatican) ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกำแพงล้อมรอบเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าทางเข้าและเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกโดยมีพระสันตะปาปา มีอำนาจปกครองสูงสุด นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica) ชมประติมากรรมอันลือชื่อปิเอต้า (Pieta) ของมิเคลันเจโลและชมแท่นบูชาบัลแดคคิโน (St. Peter's Baldachin) เป็นซุ้มสำริดที่สร้างโดยจานโลเรนโซ แบร์นินี ซึ่งสร้างตรงบริเวณที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์ (การเข้าชมด้านในมหาวิหารไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ท่านต้องต่อคิวที่ค่อนข้างยาวมาก การให้เวลาในแต่ละสถานที่เที่ยว ขึ้นอยู่ที่สถานการณ์หน้างาน) นำท่านผ่านชมกลุ่มโรมันฟอรัม (Roman Forum) อดีตศูนย์กลางทางด้านการเมือง ศาสนา และเศรษฐกิจของอาณาจักรโรมัน ที่สะท้อนให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของอารยะธรรมโรมันในช่วง 2,000 ปีที่ผ่านมา นำชมความยิ่งใหญ่ในอดีตและเก็บภาพสวยบริเวณรอบนอกของสถานสร้างความบันเทิงของชาวโรมันมาแต่สมัยโบราณโคลอสเซี่ยม (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ อดีตสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

จากนั้นนำท่านเดินชมงานประติมากรรมของเทพนิยายกรีกและโยนเหรียญอธิษฐานบริเวณน้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) สัญลักษณ์ของกรุงโรมที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง สามรักในกรุงโรม จากนั้นเชิญอิสระตามอัธยาศัยกับการเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นและของที่ระลึกในบริเวณย่านบันไดสเปน (The Spanish Step) ซึ่งเป็นแหล่งแฟชั่นชั้นนำสุดหรูและยังเป็นแหล่งนัดพบ
17.30 น. ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
22.10 น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ EK96
วันที่ 10

ดูไบ – สนามบิน

05.50 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น. ออกเดินทางต่อกลับสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบิน EK372
19.15 น. เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
มื้ออาหาร
วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
รายละเอียดและเงื่อนไข

1.        ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท + ค่าวีซ่า 5,900 บาท (ค่ามัดจำ + ค่าวีซ่า ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้)

***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***

2.        ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า

ภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ

3.        เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที

4.    หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

5.        การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่

6.        หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

1.          ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์  อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)

2.          ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ

3.          ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ

4.          ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า

5.          ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ

6.          ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ

7.          ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ วงเงินสูงสุด 3,000,000 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด ความคุ้มครองเป็นตามกรมธรรม์ประกันภัย)

8.             ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

1.          ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง

2.          ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น

3.          ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา

4.          ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง

5.          ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศอิตาลี รวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,900.-บาท)

6.          ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น  (17 ยูโร/ต่อท่าน)

7.          ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (30 ยูโร/ต่อท่าน)

GO3MXP7NFCOEK250613 เดินทางวันที่ 13 มิถุนายน 2568 - 22 มิถุนายน 2568
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - DXB 2025-06-14 - 2025-06-14 03.30 - 06.50 avatar-img EK371
DXB - MXP 2025-06-14 - 2025-06-14 09.45 - 14.20 avatar-img EK205
FCO - DXB 2025-06-21 - 2025-06-22 22.10 - 05.50 avatar-img EK96
DXB - BKK 2025-06-22 - 2025-06-22 09.00 - 18.25 avatar-img EK370
GO3MXP7NFCOEK250704 เดินทางวันที่ 04 กรกฎาคม 2568 - 13 กรกฎาคม 2568
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - DXB 2025-07-05 - 2025-07-05 03.30 - 06.50 avatar-img EK371
DXB - MXP 2025-07-05 - 2025-07-05 09.45 - 14.20 avatar-img EK205
FCO - DXB 2025-07-12 - 2025-07-13 22.10 - 05.50 avatar-img EK96
DXB - BKK 2025-07-13 - 2025-07-13 09:40 - 19:15 avatar-img EK372
GO3MXP7NFCOEK250911 เดินทางวันที่ 11 กันยายน 2568 - 20 กันยายน 2568
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - DXB 2025-09-12 - 2025-09-12 03.30 - 06.50 avatar-img EK371
DXB - MXP 2025-09-12 - 2025-09-12 09.45 - 14.20 avatar-img EK205
FCO - DXB 2025-09-19 - 2025-09-20 22.10 - 05.50 avatar-img EK96
DXB - BKK 2025-09-20 - 2025-09-20 09:00 - 18:25 avatar-img EK370
GO3MXP7NFCOEK251011 เดินทางวันที่ 11 ตุลาคม 2568 - 20 ตุลาคม 2568
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - DXB 2025-09-12 - 2025-09-12 03.30 - 06.50 avatar-img EK371
DXB - MXP 2025-09-12 - 2025-09-12 09.45 - 14.20 avatar-img EK205
FCO - DXB 2025-09-19 - 2025-09-20 22.10 - 05.50 avatar-img EK96
DXB - BKK 2025-09-20 - 2025-09-20 09:00 - 18:25 avatar-img EK370