อิตาลีสุดจึ้ง วิวสุดปัง อิตาลีใต้จรดเหนือ 10 วัน 7 คืน โดยสายการบิน EMIRATES (EK)

ดูไบ – โรม – วาติกัน - ถ่ายรูปโคลอสเซี่ยม  
โรม - เมืองปอมเปอี – เข้าชมเมืองโบราณปอมเปอี - โพสิตาโน - อมาลฟี่โคสท์ – ซอร์เรนโต- ล่องเรือ Hydrofoil สู่เกาะคาปรี -ชมถ้ำบลูกรอตโต - เนเปิลส์ - โรม  – เซียน่า - ปิซ่า – ถ่ายรูปหอเอนปิซ่า – ลุกก้า   -  ลา สเปเซีย - นั่งรถไฟสู่หมู่บ้านชิงเกว – ปาร์มา – เวโรนา - หมู่บ้านซานตา แมดดาเลนา– บริกเซน – โบลซาโน  - ขึ้นกระเช้าสู่ยอดแอลป์ดิซิอุสซี่ – ทะเลสาบคาเรซซา - ทะเลสาบมิสุริน่า - ทะเลสาบเบรียส  - โบลซาโน-  มิลาน - ถ่ายรูปมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน - แกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล – โคโม – ถ่ายรูปทะเลสาบโคโม -
  • ทัวร์ : Italy [อิตาลี] Europe [ยุโรป]
  • เที่ยวเมือง : Bolzano (โบลซาโน) Milan (มิลาน) Naples (เนเปิลส์) Parma (ปาร์มา) Verona (เวโรนา) Rome (โรม) La Spezia (ลาสเปเซีย)
  • Product : Go365Travel
  • รหัสโปรแกรม : T13865
  • Code : QQGO3FCO-EK015
  • ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
  • ระยะเวลา : 10 วัน 7 คืน
ราคาเริ่มต้นที่
ไฮไลท์ทัวร์ Highlight
ดูไบ – โรม – วาติกัน - ถ่ายรูปโคลอสเซี่ยม โรม - เมืองปอมเปอี – เข้าชมเมืองโบราณปอมเปอี - โพสิตาโน - อมาลฟี่โคสท์ – ซอร์เรนโต- ล่องเรือ Hydrofoil สู่เกาะคาปรี -ชมถ้ำบลูกรอตโต - เนเปิลส์ - โรม – เซียน่า - ปิซ่า – ถ่ายรูปหอเอนปิซ่า – ลุกก้า - ลา สเปเซีย - นั่งรถไฟสู่หมู่บ้านชิงเกว – ปาร์มา – เวโรนา - หมู่บ้านซานตา แมดดาเลนา– บริกเซน – โบลซาโน - ขึ้นกระเช้าสู่ยอดแอลป์ดิซิอุสซี่ – ทะเลสาบคาเรซซา - ทะเลสาบมิสุริน่า - ทะเลสาบเบรียส - โบลซาโน- มิลาน - ถ่ายรูปมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน - แกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล – โคโม – ถ่ายรูปทะเลสาบโคโม -
ระยะเวลาเดินทาง
ราคา
สถานะ

17 - 26 มี.ค. 69 (อ-พฤ)

92,900
จอง

04 - 13 เม.ย. 69 (ส-จ)

98,900
จอง

28 เม.ย. - 07 พ.ค. 69 (อ-พฤ)

99,900
จอง

27 พ.ค. - 05 มิ.ย. 69 (พ-ศ)

99,900
จอง
รายละเอียดโปรแกรม
วันที่ 1

กรุงเทพ

23.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
วันที่ 2

ดูไบ – โรม – วาติกัน - ถ่ายรูปโคลอสเซี่ยม

03.30 น. ออกเดินทางสู่กรุงดูไบด้วยเที่ยวบิน EK371
06.50 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
09.10 น. ออกเดินทางสู่มิลานด้วยเที่ยวบิน EK97
13.25 น. ถึงสนามบินโรม ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นําท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นผ่านชมกลุ่มโรมันฟอรัม (Roman Forum) อดีตศูนย์กลางทางด้านการเมือง ศาสนา และเศรษฐกิจของอาณาจักรโรมัน ที่สะท้อนให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของอารยะธรรมโรมันในช่วง 2,000 ปีที่ผ่านมา นําท่านเดินทางพาท่านเข้าสู่นครรัฐวาติกัน (Vatican) ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกําแพงล้อมรอบเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าทางเข้า และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกโดยมีพระสันตะปาปา มีอํานาจปกครองสูงสุด นำท่านถายรูปกับมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica)

นำชมความยิ่งใหญ่ในอดีตและเก็บภาพสวยบริเวณรอบนอกของสถานสร้างความบันเทิงของชาวโรมันมาแต่สมัยโบราณโคลอสเซี่ยม (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ อดีตสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก MERCURE ROMA WEST หรือเทียบเท่า
วันที่ 3

โรม - เมืองปอมเปอี – เข้าชมเมืองโบราณปอมเปอี - โพสิตาโน - อมาลฟี่โคสท์ – ซอร์เรนโต

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นเดินทางสู่ เมืองปอมเปอี (Pompeii) เมืองโบราณที่ถูกฝังตัวอยู่ใต้ลาวาจากการระเบิดของภูเขาไฟวิสุเวียส ซึ่งก่อนหน้านั้นเป็นเมืองที่เคยเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรโรมันโบราณอันรุ่งเรื่องมาก่อน ความจริงเหล่านี้ถูกปรากฏขึ้นหลังการขุดค้นพบซากโบราณใต้ดินต่างๆ และปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งขนาดใหญ่ที่เราจะสามารถจินตนาการย้อนกลับไปสู่ยุคอันเจริญของเมืองท่าแห่งนี้ได้ นำท่านชม เมืองโบราณปอมเปอี ที่ถูกปกคลุมไว้ด้วยลาวาเมื่อครั้งเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟวิสุเวียส (Mt.Vesuvius) จากการตั้งใจขุดค้นซากที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ของผู้คน สัตว์เลี้ยงต่างๆ ที่เหมือนถูกหยุดอยู่ ผ่านกาลเวลาอันยาวนาน ที่ยังบ่งบอกถึงความเจริญในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี ทั้งศูนย์กลางการค้า ศาสนา และวัฒนธรรม ที่ตราตึงไว้บนผืนดินแห่งเมืองนี้รอให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสได้แห่งภัยธรรมชาติที่ไม่มีใครคาดคิดและไม่อาจหลีกหนีได้ทัน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

นำท่านออกเดินทางสู่ เส้นทางชมธรรมชาติอันงดงามของบ้านเรือนที่ถูกสร้างอย่างประณีตบริเวณผาสูงชายฝั่งที่เรียงรายอย่างงดงามติดอันดับโลก เส้นทางคดเคี้ยวเลาะริมผา กับบ้านเรือนที่ถูกสร้างอย่างลงตัวและงดงามอย่าง อมาลฟี่โคสท์ (Amalfi Coast) ทำให้ผู้มาเยือนต้องตะลึงในความงดงามและยกย่องให้เป็นอีกแห่งที่สวยติดอันดับโลกเลยทีเดียว นอกจากทิวทัศน์อันงดงามที่นี่ยังมีประวัติศาสตร์เป็นเมืองท่าอันแข็งแกร่งและมั่งคั่งมาตั้งแต่อดีตกาลอีกด้วย จากนั้นเดินทางสู่ เมืองโพสิตาโน่ (Positano) เมืองเล็กๆแต่มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหลไปกับบรรยากาศชวนมองอย่างไม่กล้ากระพริบตากันเลยตลอดเส้นทางที่ผ่าน จึงทำให้เมืองชายฝั่งทะเล ในแคว้นคัมพาเนีย แห่งอิตาลีใต้นี้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งปี นำท่านเดินทางสู่ เมืองซอร์เรนโต (Sorrento) เมืองชายฝั่งทะเลแหล่งพักผ่อนของบรรดานักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ บรรดาชนชั้นสูงที่นิยมมาพักผ่อนตากอากาศ ณ เมืองแห่งนี้ ที่ผ่านการยึดครองภายใต้อาณาจักรใหญ่ที่มั่งคั่งทั้งหลายไม่ว่า อีทรัสกัน กรีด โรมัน ไบแซนไทน์ ลองโกบาร์ด และนอร์มัน อีกทั้ง ยังได้รับวัฒนธรรมอันหลั่งใหลจากบรรดาเมืองมั่งคั่งที่เต็มไปด้วยค่านิยมแห่งชนชั้นสูงเช่นฝรั่งเศสและสเปนอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก GRAND HOTEL FLORA หรือเทียบเท่า
วันที่ 4

ซอร์เรนโต - ล่องเรือ Hydrofoil สู่เกาะคาปรี -ชมถ้ำบลูกรอตโต - เนเปิลส์ - โรม

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านออกเดินทางไปยังท่าเรือ ล่องเรือ Hydrofoil สู่เกาะคาปรี (Capri) ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 45 นาที ก็จะถึงบริเวณท่าเรือหลักของเกาะ นำท่านชมความงามของ “ถ้ำบลูกรอตโต”้(BLUE GROTTO) โดยถ้ำนั้นถูกค้นพบเมื่อปี 1826 มีขนาดกว้าง 45 เมตรและยาว 54 เมตร สูง 15 เมตรทางเขา้ถ้า สูงจากระดับน้ำทะเลเพียงเมตรเศษๆ (การเข้าชมถ้ำนั้นจำเป็นต้องดูน้ำขึ้นน้ำลงก่อน เพื่อความปลอดภัย ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าชมถ้ำได้ จะเปลี่ยนไปเที่ยวเมืองคาปรีแทน) นำท่าน ขึ้นรถราง (Funicular) สู่ตัวเมืองเก่าด้านบนเกาะคาปรี (Capri Center) นำท่านเดินชมเมืองคาปรี ที่บรรยากาศสวยงามน่ารัก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

อิสระให้ท่านเดินเล่นแบบเต็มอิ่มบนเกาะที่มีเสน่ห์ เลือกซื้อสินค้าของฝาก ของที่ระลึก รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากเลม่อน (Lemon) พืชท้องถิ่นอันเลื่องชื่อที่กลายเป็นสัญลักษณ์ เลือกนาฬิกายี่ห้อท้องถิ่นแต่ได้มาตรฐานระดับโลก หรือนั่งดื่มกาแฟริมชายฝั่ง ชมบ้านเมืองที่สร้างลดลั่นตามไหล่เขาในบรรยากาศการพักผ่อนสบายๆ สไตล์อิตาลีตอนใต้ที่สวยงามไม่เหมือนใคร นำท่านเดินทางกลับขึ้นสู่ฝั่งที่ท่าเรือเมืองเนเปิ้ล จากนั้นนำท่านกลับสู่กรุงโรม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก HAMPTON BY HILTON หรือเทียบเท่า
วันที่ 5

โรม – เซียน่า - ปิซ่า – ถ่ายรูปหอเอนปิซ่า – ลุกก้า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเซียน่า (Siena) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ในปี ค.ศ.1995 นำท่านเดินเข้าสู่ตัวเมืองเก่า เพื่อชมจัตุรัสเดล คัมโป (Piazza del Campo) ที่เป็นรูปทรงคล้ายเกือกม้านับว่าเป็นจัตุรัสที่มีความสวยงามมากอีกแห่งหนึ่งในอิตาลี ให้เวลาท่านชมและเดินเล่นถ่ายรูปบริเวณรอบนอกของปาลาซโซ พับบลิโค (Palazzo Pubblico) เป็นพระราชวังเก่าที่สร้างขึ้นด้วยศิลปะแบบโรมาเนสก์ ตั้งแต่ปีค.ศ.1297 และ หอระฆังมานเจีย (Torre del Mangia) ที่เป็นอีกหนึ๋งสัญลักษณ์ของเซียนา จากนั้นนำท่านชมความงดงามบริเวณภายนอกของ มหาวิหารเซียนา (Siena Cathedral) หรือ ดูโอโมดิเซียนา (Duomo di Siena) ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1215 -1263 ในรูปแบบสถาปัตยกรรมกอธิค และต่อเติมด้วยศิลปะแบบเรอเนซองส์ในยุคต่อมา
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเดินทางสู่เมืองปิซ่า (Pisa) เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เป็นเมืองเล็กๆอยู่ทางตะวันตกของ Florence ด้านตะวันตกของเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ Pisa ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก นำท่านเข้าสู่บริเวณจัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli) ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี, มหาวิหารดูโอโม (Duomo) ที่งดงามและหอเอนแห่งเมืองปิซ่าอันเลื่อง ชมหอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโ ลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน จากนั้นให้ท่านอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกราคาถูก ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองลุกก้า (Lucca)
ที่พัก BEST WESTERN LUCCA หรือเทียบเท่า
วันที่ 6

ลุกก้า - ลา สเปเซีย - นั่งรถไฟสู่หมู่บ้านชิงเกว – ปาร์มา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองลา สเปเซีย (La Spezia) เมืองในเขตลิกูเรีย ตอนเหนือของอิตาลีอยู่ระหว่างเมืองเจนัว และ ปิซ่า ในบริเวณอ่าวลิกูเรหนึ่งในอ่าวที่มีความสําคัญทางด้านการค้าและการทหาร
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางชมวิวเทือกเขาโดโลใมท์ด้วยการขึ้นกระเช้าซิเคด้า (Seceda Cable Car) ซึ่งเป็นกระเช้าที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองออร์ทิเซ่ มีความสูงประมาณ 2,519 เมตร โดยบนยอดเขานั้นจะมีรูปปั้น “Summit Cross” หรือรูปปั้นที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน ซึ่งเป็นจุดไฮไลค์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน อิสระให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ของโดโลไมท์โดยรอบ ***การนั่งกระเช้า หากสภาพอากาศหรือมีเหตุขัดข้องไม่สามารถขึ้นได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้นั่งกระเช้าเพื่อความปลอดภัยและในกรณีที่กระเช้าปิดจะเปลี่ยนไปขึ้นเขาข้างเคียงแทน***
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

นําท่านโดยสารรถไฟสู่ หมู่บ้านชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี ที่มีความหมายว่า “ดินแดนทั้งห้า (Five Land)” ตั้งบนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่ MONTEROSSO AL MARE, VERNAZZA, CORNIGLIA, MANAROLA และ RIOMAGGIORE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้ มีหุบเขาล้อมรอบ ประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้อีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมหมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ (Rio –Maggiore) อยู่ทางตอนใต้สุดของหมู่บ้านทั้งห้า เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์ อิสระให้ท่านชมความงดงามและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนําท่านสู่หมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) อาจได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง แต่มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 มีความสวยงามที่ไม่แพ้หมู่บ้านอื่นๆ มีไวน์ท้องถิ่นที่ปลูกในพื้นที่ที่รสชาดเยี่ยมอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านมอนเตรอสโซ อัล มาเร ( Monterosso al Mare) เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่และกว้างมากที่สุด มีหาดทรายยาวสวยงามที่สุดในชิงเกว แตร์เร

จากนั้นเดินทางสู่จากนั้นเดินทางสู่ เมืองปาร์มา (Parma) เมืองในแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา โดยเมืองนี้เป็นต้นกำเนิดแฮมและพาร์เมซานชีส มีแฮมที่มีชื่อเสียงอย่างปาร์มาแฮม (Parma Ham) ซึ่งโดดเด่นด้วยลักษณะพิเศษ คือ มีกลิ่นหอม รสชาติเค็มและออกหวานนิดๆ ทำมาจากขาหมู ที่นำไปบ่มไว้ในถ้ำ ซึ่งมีอากาศเย็น นานถึง 6 เดือน หรือนานแรมปี อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งของขึ้นชื่อของเมือง เช่น ชีสพาเมซาน หรือ Parmigiano Reggiano ที่ชาวอิตาเลี่ยนนิยมทานเป็นชีสยอดนิยม รวมทั้งแฮมหลากหลายชนิด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปาร์มาแฮม)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก PARMA CONGRESS หรือเทียบเท่า
วันที่ 7

ปาร์มา – เวโรนา - หมู่บ้านซานตา แมดดาเลนา– บริกเซน – โบลซาโน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวโรน่า (Verona) เมืองใหญ่อันดับ 2 ของแคว้นเวเนโต้รองจากเวนิส เมืองเวโรน่ายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 2000 อีกทั้งวิลเลียม เชกสเปียร์ นักกวี และนักเขียนบทละครชาวอังกฤษผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษและของโลก เขายังใช้บรรยากาศ และเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองตระกูลในเวโรน่าแต่งเป็นละครโศกนาฏกรรมขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1595 เรื่อง โรมิโอกับจูเลียต นำท่านเดินชมอาคารบ้านเรือนสีสดใสสวยงามภายในจัตุรัสกลางเมืองที่คึกครื้นมีชีวิตชีวา จากนั้นพาท่านถ่ายรูปกับโรงละครโรมันกลางแจ้ง (Verona Arena) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างขึ้นเมื่อตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 โดยมีลักษณะเช่นเดียวกับโคลอสเซียมในกรุงโรมเพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการเปิดแสดงโอเปร่าหรือคอนเสิร์ตกลางเเจ้งในสนามกีฬาอยู่เป็นประจำ นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ บ้านเลขที่ 23 ของจูเลียต ชมระเบียงแห่งเรื่องราว โรแมนติกที่จูเลียตเฝ้ารอคอยพบโรมิโอทุกค่ำคืน และบริเวณหน้าบ้านยังมีรูปปั้นสำริดขนาดเท่าตัวจริงของจูเลียต

นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเบรียส ( Lake Braies ) หรือ (Pragser Wildsee) ทะเลสาบที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมต์ และยังได้เป็นส่วนหนึ่งใน มรดกโลก (Unesco) อีกด้วย
เที่่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่ “หมู่บ้านซานตา แมดดาเลนา” (Santa Maddalena) เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเบลูโน โดยคำว่า Santa Maddalena หรือ St. Magdalena ในภาษาเยอรมัน คือหมู่บ้านวิวสวรรค์กลางพื้นที่หุบเขาในชุมชน Val di Funes หมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาที่ตั้งอยู่ใต้เงาของเทือกเขาโดโลไมท์ ถือว่าเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กแต่มีทัศนียภาพที่งดงามแบบอลังการพร้อมสูดอากาศอันแสนบริสุทธิ์

นำท่านเดินทางสู่เมือง บริกเซน (Brixen) เป็นเมืองในเทือกเขาแอลป์ของอิตาลี มหาวิหารบริกเซน (Brixen Cathedral) มหาวิหารที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระแม่มารีและนักบุญแคสเซียน มีการผสมผสานสถาปัตยกรรมหลายรูปแบบ เช่น โรมาเนสก์และบาโรก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางสู่ที่พัก เมืองโบลซาโน (Bolzano)
ที่พัก STADT HOTEL CITTA หรือเทียบเท่า
วันที่ 8

โบลซาโน - ขึ้นกระเช้าสู่ยอดแอลป์ดิซิอุสซี่ – ทะเลสาบคาเรซซา - ทะเลสาบมิสุริน่า - ทะเลสาบเบรียส - โบลซาโน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองออร์ทิเซ่ (Ortisei) ศูนย์กลางของแถบอุทยานเทือกเขาโดโลไมท์ (Dolomites) โดยเมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขา มีเทือกเขาล้อมรอบสวยงาม อิสระให้ท่านพักผ่อนเพลิดเพลิน กับอากาศอันบริสุทธิ์ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา จากนั้นนำท่านขึ้นกระเช้า (Cable Car) เราจะพาขึ้นสู่บนเนินเขาที่เรียกว่า แอลป์ ดิ ซุสเซ่ (Alpe di Siusi) นำท่านชมวิวทิวทัศน์บนทุ่งหญ้าราบเลียบบนภูเขา ที่ได้ขึ้นชื่อว่า “กว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป” ให้ท่านได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของทิวทัศน์มุมสูงของเทือกเขาโดโลไมท์ เวลาที่มองลงไปด้านล่างจะยังเห็นบ้านเรือนในสไตล์ยูโรเปี้ยนรีสอร์ทกระจายอยู่ตามไหล่เขา อิสระให้ท่านเดินเล่น ถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้ากลับลงสู่ด้านล่าง ***การนั่งกระเช้า หากสภาพอากาศหรือมีเหตุขัดข้องไม่สามารถขึ้นได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้นั่งกระเช้าเพื่อความปลอดภัยและในกรณีที่กระเช้าปิดจะเปลี่ยนไปขึ้นเขาข้างเคียงแทน*** นำท่านชมวิวบริเวณ ทะเลสาบคาเรซซา Lake Carezza ทะเลสาบอัลไพน์ขนาดเล็กที่มีน้ำสีเขียวมรกตและทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขา Latemar เป็นฉากหลัง มีความสูงกว่า 1,520 เมตรจากระดับน้ำทะเล จนได้รับฉายาจากนักท่องเที่ยวว่า Rainbow Lake และ Fairytale Lake of the Dolomites
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบมิสุริน่า (Misurina Lake) ทะเลสาบสีเขียวมรกตที่รายล้อมไปด้วยป่าสนแห่งเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูง 1,754 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่เป็นทะเลสาบที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งในแถบ Dolomite นี้เลย เนื่องด้วยความสวยงามของทะเลสาบ บางเวลาน้ำนิ่งราวกระจกเงาใส ที่นักท่องเที่ยวจะแวะเวียนมาอิสระท่าน ถ่ายภาพความงดงามของทะเลสาบจนเต็มอิ่ม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเบรียส ( Lake Braies ) หรือ (Pragser Wildsee) ทะเลสาบที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมต์ และยังได้เป็นส่วนหนึ่งใน มรดกโลก (Unesco) อีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก STADT HOTEL CITTA หรือเทียบเท่า
วันที่ 9

โบลซาโน- มิลาน - ถ่ายรูปมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน - แกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล – โคโม – ถ่ายรูปทะเลสาบโคโม - สนามบิน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นเดินทางสู่เมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

ออกเดินทางสู่ เมืองโคโม (Como) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองริมทะเลสาบที่สวยงามบริเวณพรมแดนอิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ทะเลสาบโคโมที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์สูงตระหง่านอันงดงาม จากนั้นนำท่านชมทะเลสาบโคโม่ (Como Lake) ทะเลสาบโคโม่นั้นตั้งอยู่ในจังหวัดโคโม่ แคว้นลอมบาร์เดียเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสามของอิตาลีแต่เรื่องความสวยงามนั้นมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยพื้นที่โดยรอบมีความยาวถึง 146 กิโลเมตรเลยทีเดียว
17.30 น. ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
22.20 น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ EK92
วันที่ 10

ดูไบ – สนามบิน

06.25 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น. ออกเดินทางต่อกลับสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบิน EK372
19.15 น. เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
มื้ออาหาร
วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
รายละเอียดและเงื่อนไข

1.      ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท + ค่าวีซ่า 5,900 บาท (ค่ามัดจำ + ค่าวีซ่า ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้)

***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***

2.      ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า

ภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ

3.      เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที

4.      หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

5.      การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่

6.      หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

1.         ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์           อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)

2.         ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ

3.         ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ

4.         ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า

5.         ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ

6.         ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ

7.         ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ วงเงินสูงสุด 2,000,000 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด ความคุ้มครองเป็นตามกรมธรรม์ประกันภัย)

8.         ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)        

1.         ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง

2.         ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น

3.         ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา

4.         ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง

5.         ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศอิตาลี รวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,900.-บาท)

6.         ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น  (17 ยูโร/ต่อท่าน)

7.         ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (30 ยูโร/ต่อท่าน)

GO3FCO7NMXPEK260317-1 เดินทางวันที่ 17 มีนาคม 2569 - 26 มีนาคม 2569
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - DXB 2026-03-18 - 2026-03-18 02:00 - 06:00 avatar-img EK377
DXB - FCO 2026-03-18 - 2026-03-18 08:55 - 12:40 avatar-img EK97
MXP - DXB 2026-03-25 - 2026-03-26 21:35 - 06:45 avatar-img EK092
DXB - BKK 2026-03-26 - 2026-03-26 09:30 - 18.40 avatar-img EK372
GO3FCO7NMXPEK260404-1 เดินทางวันที่ 04 เมษายน 2569 - 13 เมษายน 2569
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - DXB 2026-04-05 - 2026-04-05 02:15 - 06:00 avatar-img EK377
DXB - FCO 2026-04-05 - 2026-04-05 09:10 - 13:25 avatar-img EK97
MXP - DXB 2026-04-12 - 2026-04-13 22:20 - 06:25 avatar-img EK092
DXB - BKK 2026-04-13 - 2026-04-13 09:00 - 18:20 avatar-img EK370
GO3FCO7NMXPEK260428-1 เดินทางวันที่ 28 เมษายน 2569 - 07 พฤษภาคม 2569
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - DXB 2026-04-29 - 2026-04-29 02:15 - 06;00 avatar-img EK377
DXB - FCO 2026-04-29 - 2026-04-29 09:10 - 13:25 avatar-img EK97
MXP - DXB 2026-05-06 - 2026-05-07 22:20 - 06:24 avatar-img EK092
DXB - BKK 2026-05-07 - 2026-05-07 09:40 - 18:55 avatar-img EK372
GO3FCO7NMXPEK260527-1 เดินทางวันที่ 27 พฤษภาคม 2569 - 05 มิถุนายน 2569
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - DXB 2026-05-28 - 2026-05-28 02:15 - 06:00 avatar-img EK377
DXB - FCO 2026-05-28 - 2026-05-28 09:10 - 13:25 avatar-img EK97
MXP - DXB 2026-06-04 - 2026-06-05 22:20 - 06:25 avatar-img EK092
DXB - BKK 2026-06-05 - 2026-06-05 09:00 - 18:25 avatar-img EK370