ชัตเตอร์ไม่เคยจะพัก เพราะวิวน่ารักเต็มประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส 8วัน 5คืน โดยสายการบิน Emirates (EK)

ดูไบ - ซูริค – หมู่บ้านริคเวียร์ – หมู่บ้านริเบอร์วิลล์ - กอล์มาร์  
กอล์มาร์  - หมู่บ้านอองกีเชม - ป่าดำ - ซุก – ร้านช่างทอง - ลูเซิร์น - สิงโตหินแกะสลัก - สะพานไม้ชาเปล
ลูเซิร์น – สถานีกรินเดอร์วาร์ล - ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า Eiger Express และ นั่งรถไฟสู่ยอดเขาจุงเฟรา –  ชมธารน้ำแข็งยักษ์ - เข้าถ้ำน้ำแข็ง - อินเตอร์ลาเคน – ร้านเคียร์ชโฮฟเฟอร์ 
เบิร์น - บ่อหมีสีน้ำตาล – หอนาฬิกาดาราศาสตร์ – แทช - นั่งรถไฟสู่เซอร์แมท - เซอร์แมท
เซอร์แมท – ขึ้นรถไฟฟันเฟืองสู่ยอดเขากรอนเนอร์แกรต – บริก - ซิยง
มองเทรอซ์ – ปราสาทชิลยอง - โลซานน์ – ศาลาไทย - เจนีวา – น้ำพุเจทโด - นาฬิกาดอกไม้ - สนามบินเจนิวา
  • ทัวร์ : Switzerland [สวิตเซอร์แลนด์] Europe [ยุโรป]
  • เที่ยวเมือง :
  • Product : Go365Travel
  • รหัสโปรแกรม : T13792
  • Code : QQGO3ZRH-EK014
  • ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
  • ระยะเวลา : 8 วัน 5 คืน
ราคาเริ่มต้นที่
ไฮไลท์ทัวร์ Highlight
ดูไบ - ซูริค – หมู่บ้านริคเวียร์ – หมู่บ้านริเบอร์วิลล์ - กอล์มาร์ กอล์มาร์ - หมู่บ้านอองกีเชม - ป่าดำ - ซุก – ร้านช่างทอง - ลูเซิร์น - สิงโตหินแกะสลัก - สะพานไม้ชาเปล ลูเซิร์น – สถานีกรินเดอร์วาร์ล - ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า Eiger Express และ นั่งรถไฟสู่ยอดเขาจุงเฟรา – ชมธารน้ำแข็งยักษ์ - เข้าถ้ำน้ำแข็ง - อินเตอร์ลาเคน – ร้านเคียร์ชโฮฟเฟอร์ เบิร์น - บ่อหมีสีน้ำตาล – หอนาฬิกาดาราศาสตร์ – แทช - นั่งรถไฟสู่เซอร์แมท - เซอร์แมท เซอร์แมท – ขึ้นรถไฟฟันเฟืองสู่ยอดเขากรอนเนอร์แกรต – บริก - ซิยง มองเทรอซ์ – ปราสาทชิลยอง - โลซานน์ – ศาลาไทย - เจนีวา – น้ำพุเจทโด - นาฬิกาดอกไม้ - สนามบินเจนิวา
ระยะเวลาเดินทาง
ราคา
สถานะ

12 - 19 พ.ย. 68 (พ-พ)

85,900
จอง

09 - 16 ธ.ค. 68 (อ-อ)

86,900
จอง
รายละเอียดโปรแกรม
วันที่ 1

กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ)

23.30 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบิน Emirates (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
วันที่ 2

ดูไบ - ซูริค – หมู่บ้านริคเวียร์ – หมู่บ้านริเบอร์วิลล์ - กอล์มาร์

02.00 น. ออกเดินทางจากประเทศไทย สู่ดูไบ โดยเที่ยวบิน EK 377
06.00 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
08.40 น. เดินทางต่อสู่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเที่ยวบิน EK 87
13.20 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานโคลเทิน เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง และ ปรับเป็น 5 ชั่วโมง วันที่ 31 มีนาคม 2568) หลังจากนั้นผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ หมู่บ้านริเบอร์วิลล์ (Ribeauvillé) อีกหนึ่งหมู่บ้านสวยแคว้นอัลซาส โดยที่นี่ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็น Ville Fleurie หรือ หมู่บ้านแห่งดอกไม้ บางช่วงอาจจะเจอการประดับประดาบ้านด้วยดอกไม้หลากสีสันต่างๆ เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ในการมาเยือนแคว้นอัลซาส นำท่านเดินทางสู่ เมืองริควีร์ (Riquewihr) เมืองในเส้นทางสายไวน์แห่งแคว้นอัลซาสที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศส นั่งรถผ่านชมบริเวณไร่องุ่นที่ปลูกกันตามแนวไหล่เขาที่ลดหลั่นไปมา ก่อนนำท่านเข้าไปเดินเล่นในตัวเมืองเก่าที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม บรรยากาศภายในหมู่บ้านจะคล้ายกับเดินเข้าไปเหมือนหลงอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเกือบทุกหลังจะตกแต่ง และประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่น่ารักๆ เต็มไปหมด จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของไวน์แห่งแคว้นอาลซัส (Capitale des Vins d'Alsace) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงบรรยากาศของเมืองโบราณ โดยเฉพาะในตัวเมืองเก่าที่เรียงรายไปด้วยเรือนไม้เก่าแก่ ร้านค้าสวยงาม โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่ อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลางได้อย่างดีสุดแห่งหนึ่งในประเทศ เมืองนี้มีคลองตัดไปมา จนได้รับสมญานามว่า “Little Venice” นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารเซ็นต์มาร์ติน โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากหินสีชมพูทั้งหลัง สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ.1234 - 1365 ถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองกอลมาร์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่สวยงามโอ่อ่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก MERCURE COLMAR หรือเทียบเท่า
วันที่ 3

กอล์มาร์ - หมู่บ้านอองกีเชม - ป่าดำ - ซุก – ร้านช่างทอง - ลูเซิร์น - สิงโตหินแกะสลัก - สะพานไม้ชาเปล

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นเดินทางต่อสู่ หมู่บ้านอองกีเชม (Eguisheim) ประเทศฝรั่งเศส หมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “อีกหนึ่งหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส” อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของแคว้นอัลซาสอีกด้วย ท่านจะได้ชมชมความงดงามไปตามถนนก้อนกรวดอันคดเคี้ยวของหมู่บ้าน และตื่นตาตื่นใจไปกับความงดงามของเหล่าอาคาร บ้านเรือน ที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นยุคกลางไว้เป็นอย่างดี ชมความเก่าแก่ของอาคารไม้โบราณที่แต่งแต้มด้วยสีสันสีสดใส ชมลานน้ำพุที่สร้างในแบบเรเนซองส์ จากนั้นเดินทางต่อสู่ เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย ท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเที่ยวชม เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา นำท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 นำชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
เย็น อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก Holiday inn Express Kriens หรือเทียบเท่า
วันที่ 4

ลูเซิร์น – สถานีกรินเดอร์วาร์ล - ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า Eiger Express และ นั่งรถไฟสู่ยอดเขาจุงเฟรา – ชมธารน้ำแข็งยักษ์ - เข้าถ้ำน้ำแข็ง - อินเตอร์ลาเคน – ร้านเคียร์ชโฮฟเฟอร์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ Grindelwald เมืองตากอากาศที่สวยงาม เพื่อขึ้น กระเช้าEiger Express กระเช้าลอยฟ้าตัวใหม่ สู่สถานี Eigergletscher โดยกระเช้าตัวนี้นอกจากจะให้ท่านได้เห็นวิวความสวยงามของจุงเฟราโดยรอบ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อด้วยรถไฟเพื่อขึ้นสู่ สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค Jungfraujoch สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป Top of Europe ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ โดยเมื่อปี คศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร หลังจากนั้นนำท่านเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง Ice Palace ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขา และที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองบนยอดเขา

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางลงจากเขาสู่ เมืองอินเตอร์ลาเกน (Interlaken) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ และพลาดไม่ได้กับการเลือกชมสินค้าจากร้านเคียร์ชโฮฟเฟอร์ (Kirchhofer) หนึ่งในสุดยอดร้านนาฬิกาและเครื่องประดับในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสาขามากมาย โดยมีสาขาใหญ่ คือ เคียร์ชโฮฟเฟอร์ คาสิโน แกลเลอรี มีนาฬิกาสวิสมากกว่า 70 แบรนด์ในที่ที่เดียว อาทิ Breguet, Cartier, Piaget, Blancpain, Chopard, IWC, Parmigiani, Franck Muller, Hublot, Tag Heuer, Hermes, Rado, Gucci, Tissot, Bvlgari, Montblanc, Omega, Chanel, Seven Friday, Mido ฯลฯ รวมทั้ง Rolex (pre owned) พร้อมเครื่องประดับสุดพิเศษหลากหลายแบบ และยังเป็นศูนย์กลางเครื่องสำอางสวิสขั้นสูง, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว รวมทั้งน้ำหอมชื่อดัง อาทิ La Prairie, Cellcosmet, Volmont, Chanel, La mer, Estee Lauder, Jo Malone ฯลฯ และอีกหลายแบรนด์ดังจากทั่วโลก รวมถึงมีจำหน่ายเครื่องหนังแบรนด์ดัง มีของที่ระลึกต่างๆ จากสวิตเซอร์แลนด์ เช่น ตุ๊กตา, มีดพับ Victorinox รวมทั้งมี Cartier boutique, Breguet & Blancpain, Swiss luxury beauty ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอินเทอร์ลาเก้น
เย็น อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก Hotel Chalet Interlaken หรือ เทียบเท่า หรือ Holiday Inn Bern Westside หรือเทียบเท่า

** ในกรณีที่ไม่ได้โรงแรมที่อินเทอร์ลาเก้นจะเปลี่ยนไปนอนที่เมืองข้างเคียงหรือเมืองเบิร์นแทน**
วันที่ 5

เบิร์น - บ่อหมีสีน้ำตาล – หอนาฬิกาดาราศาสตร์ – แทช - นั่งรถไฟสู่เซอร์แมท - เซอร์แมท

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Bern) เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลก ในปี ค.ศ.2010 อีกด้วย นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านเดินลัดเลาะสู่ถนนจุงเคอร์นกาสเซ (Junkerngasse) ถนนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีในย่านเมืองเก่า มีบ้านอาคารสไตล์บาโรกตอนปลาย นำท่านแวะถ่ายรูปกับวิหารเบิร์น (Bern’s Minster) วิหารสไตล์โกธิคที่สูงที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 จากนั้นเดินสู่ถนนแครมกัซเซอ (Kramgasse) ทำท่านชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Zytglogge) อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆ ชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านเดินชมมาร์คกาสเซ (Marktgasse) ที่เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองทาช Tasch เพื่อนำท่านนั่งรถไฟเข้าสู่เซอร์แมท Zermatt เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก Continental หรือ เทียบเท่า
วันที่ 6

เซอร์แมท – ขึ้นรถไฟฟันเฟืองสู่ยอดเขากรอนเนอร์แกรต – บริก - ซิยง

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านนั่งรถไฟฟันเฟืองสู่ สถานีรถไฟกรอนเนอร์แกรต (Gornergrat railway) เดินทางสู่จุดชมวิวที่ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพที่สวยงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่สวยงาม โดยท่านสามารถเดินเท้าสู่บริเวณทะเลสาบที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,757 เมตร โดยบริเวณทะเลสาบนี้เป็นเงาสะท้อนภาพเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn's reflect) อันสุดสวยงามยิ่งนัก (โดยปกติน้ำในทะเลสาบ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน และ สภาพอากาศ ถ้าช่วงฤดูหนาวทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางสู่เมืองบริก (Brig) นั้น เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในรัฐวาเล่ส์ มีอายุมากกว่า 800 ปี ด้วยความตัวเมืองอยู่ใกล้ชายแดนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลีนั้น ทำให้ในอดีตเมืองบริกมีความสำคัญเพราะเป็นทางผ่านของเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่าง สวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี นำท่านถ่ายรูปคู่กับ ปราสาทสต็อกคัลเปอร์ (Stockalper Palace) สัญลักษณ์สำคัญของเมืองบริกเป็นปราสาทสไตล์บาร๊อคซึ่งสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 โดยพ่อค้าชื่อ Kaspar Stockalper โดยเริ่มก่อสร้างจากการเป็นบ้านมาก่อน ก่อนจะต่อยอดพัฒนามาเป็นปราสาทดังเช่นในปัจจุบัน ในอดีตปราสาทสต็อกคัลเปอร์ถูกนับว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่ไม่ใช่ที่สาธารณะที่ใหญ่ที่สุด (Largest Private Construction) นอกจากนี้แล้วเมืองบริกนั้นเป็นเมืองที่เป็นต้นกำเนิดของเมนูกอร์ดองเบลอ (Cordon Bleu) หรือเนื้อห่อแฮมชีสทอด อีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

(เมนูพิเศษ หมูกอร์ดองเบลอ เมนูชื่อดังระดับโลกที่มีต้นกำเนิดจากเมืองบริก เริ่มค้นพบตั้งแต่ช่วงปีที่ 1940 โดยคาดว่าดัดแปลงมาจาก Pork Schnitzel ที่มีชื่อเสียงของประเทศออสเตรีย โดยเมนูกอร์ดองเบลอนั้นเป็นการนำเนื้อ(หมู)มาแล่ให้บางๆ ขนาดพอดีคำ พร้อมห่อด้วยแฮมชีสและนำไปชุบไข่พร้อมเกล็ดขนมปังและนำไปทอดร้อนๆ จนสุกพอดี ข้างนอกกรอบ ข้างในชีสเยิ้มๆ นิยมทานคู่กับมายองเนส ,ซอสบาร์บีคิวหรือซอสมะเขือเทศ)

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซิยง
ที่พัก MOXY SION หรือเทียบเท่า
วันที่ 7

มองเทรอซ์ – ปราสาทชิลยอง - โลซานน์ – ศาลาไทย - เจนีวา – น้ำพุเจทโด - นาฬิกาดอกไม้ - สนามบินเจนิวา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่า “ริเวียร่าของสวิส” ให้ท่านได้ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ นำท่าน ชมปราสาทชิลยอง (Chillon castle) จากภายนอกโดยปราสาทแห่งนี้ เป็นปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

นำท่านเที่ยวชม เมืองโลซานน์ เมืองที่เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิส และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่ในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 เมื่อทรงพระเยาว์ ทรงเคยประทับและทรงศึกษาที่เมืองแห่งนี้อีกด้วย นำท่านชมศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ ที่สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และรัฐบาลไทยได้ส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์

นำท่านเดินต่อสู่ เมืองเจนีวา (Geneva) นำชมเมืองที่เป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ เมืองที่ตั้งองค์การสากลระดับโลก อาทิ องค์การการค้าโลก, กาชาดสากล, แรงงานสากล ฯลฯ ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับน้ำพุเจทโด (Jet d'eau) ที่ฉีดสายน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 390 ฟุต (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับนาฬิกาดอกไม้ (The Flower Clock) สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนีวา
17.00 น. ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติเจนีวา เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
21.20 น. ออกเดินทางสู่ ดูไบ โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK 84
วันที่ 8

ดูไบ - กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)

05.50 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น. ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK 372
19.15 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
มื้ออาหาร
วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
8
รายละเอียดและเงื่อนไข

1.      ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท + ค่าวีซ่า 5,900 บาท (ค่ามัดจำ + ค่าวีซ่า ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้) โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น

***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***

2.      ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า

ภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ

3.      เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที

4.      หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

5.      การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่

6.      หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

1.         ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์           อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)

2.         ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ

3.         ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ

4.         ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า

5.         ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ

6.         ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ

7. ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด ความคุ้มครองเป็นตามกรมธรรม์ประกันภัย)

8.  ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

1.         ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง

2.         ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น

3.         ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา

4.         ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง

5.         ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้น รวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,900.-บาท)

6.         ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น  (12 สวิสฟรังก์ /ต่อท่าน)

7.         ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (24 สวิสฟรังก์ /ต่อท่าน)

GO3ZRH5NGVAEK251112-1 เดินทางวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 - 19 พฤศจิกายน 2568
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - DXB 2025-11-13 - 2025-11-13 01:05 - 04:55 avatar-img EK385Q
DXB - ZRH 2025-11-13 - 2025-11-13 08:25 - 12:25 avatar-img EK87
GVA - DXB 2025-11-18 - 2025-11-19 20:40 - 06:05 avatar-img EK84
DXB - BKK 2025-11-19 - 2025-11-19 09:30 - 18:40 avatar-img EK372
GO3ZRH5NGVAEK251209-1 เดินทางวันที่ 09 ธันวาคม 2568 - 16 ธันวาคม 2568
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - DXB 2025-12-09 - 2025-12-09 01:05 - 04:55 avatar-img EK385Q
DXB - ZRH 2025-12-09 - 2025-12-09 08:25 - 12:25 avatar-img EK87
GVA - DXB 2025-12-15 - 2025-12-16 20:40 - 06:05 avatar-img EK84
DXB - BKK 2025-12-16 - 2025-12-16 09:30 - 18:40 avatar-img EK372