Great route moodดี มีTGV มีจุงเฟรา มีเราในใจบ้างนะ สวิตเซอร์แลนด์ - ฝรั่งเศส 10 วัน 7 คืน โดยสายการบินเอมิเรทซ์ (EK)

ส่วนลด
2,000
01-10 มี.ค. 68
Great route moodดี มีTGV มีจุงเฟรา มีเราในใจบ้างนะ สวิตเซอร์แลนด์ - ฝรั่งเศส 10 วัน 7 คืน โดยสายการบินเอมิเรทซ์ (EK)
  • ทัวร์ : Switzerland [สวิตเซอร์แลนด์] France [ฝรั่งเศส] Europe [ยุโรป]
  • เที่ยวเมือง : Strasbourg (สตราสบูร์ก) Paris (ปารีส) Interlaken (อินเตอร์ลาเคน) Zurich (ซูริค) Lucerne (ลูเซิร์น) Zug (ซูก)
  • รหัสโปรแกรม : T12157
  • Code : QQGO3ZRH-EK004
  • ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
  • ระยะเวลา : 10 วัน 7 คืน
ราคาเริ่มต้นที่
ไฮไลท์ทัวร์ Highlight
ซูริค - สไตน์อัมไรน์- โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ – จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ – เมืองเก่าซูริค - สถานีกรินเดอร์วาร์ล - ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า Eiger Express และ นั่งรถไฟสู่ยอดเขาจุงเฟรา – ชมธารน้ำแข็งยักษ์ – เข้าถ้ำน้ำแข็ง - อินเตอร์ลาเคน - ซูริค – ซุก – ลูเซิร์น - กอลมาร์ - หมู่บ้านเอกีเชม– ริคเวียร์ - สตราสบูร์ก - นั่งรถไฟความเร็วสูง TGV - ปารีส - ย่านมงมาร์ต เข้าชมพระราชวังแวร์ซายส์ - ปารีส - ประตูชัย - หอไอเฟล – พิพิธภัณฑ์ลูฟท์ - ห้างลา ซามาริแตง - OUTLET - ล่องเรือแม่น้ำแซน - ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์
ระยะเวลาเดินทาง
ราคาเริ่มต้น
สถานะ
07 เม.ย. 2568 - 16 เม.ย. 2568
99,900
จอง
รายละเอียดโปรแกรม
วันที่ 1

กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)

22.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
วันที่ 2

ดูไบ – ซูริค - สไตน์อัมไรน์ - ซูริค- โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ – จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ – เมืองเก่าซูริค

01.15 น. ออกเดินทางจากประเทศไทย สู่ดูไบ โดยเที่ยวบิน EK 385
04.45 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
08.40 น. เดินทางต่อสู่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเที่ยวบิน EK 87
13.20 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานโคลเทิน เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง วันที่ 31 มีนาคม 2568 หลังจากนั้นผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองสไตน์ อัม ไรน์ (Stein am Rhien) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคอนสแตนซ์ (Lake Constance) กับทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) ในเมืองเต็มไปด้วยภาพวาดสีเฟรสโกลวดลวยสวยงามตกแต่งอยู่ตามผนังกำแพง นำท่านเข้าสู่จตุรัส Rathausplatz จุดไฮไลค์ของเมืองที่เป็นที่ตั้งของศาลากลาง โดดเด่นด้วยถนนแคบๆ อาคารบ้านเรือนสีสันสดใส และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ล้อมรอบด้วยอาคารครึ่งไม้ที่สวยงาม หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ นำท่านสู่จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) เป็นจัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก HARRY’S HOME หรือเทียบเท่า
วันที่ 3

สถานีกรินเดอร์วาร์ล - ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า Eiger Express และ นั่งรถไฟสู่ยอดเขาจุงเฟรา – ชมธารน้ำแข็งยักษ์ – เข้าถ้ำน้ำแข็ง - อินเตอร์ลาเคน - ซูริค

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองตากอากาศที่สวยงาม เดินทางถึงสถานีกรินเดลวัลด์เพื่อขึ้นกระเช้าลอยฟ้า Eiger Express สู่สถานี Eigergletscher ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันสวยงามของยอดเขาจุงเฟรา

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อด้วยรถไฟเพื่อขึ้นสู่ สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe) โดยเมื่อปี ค.ศ. 2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขาจุงเฟราเป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ Aletsch Glacier ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ได้อีกด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองบนยอดเขา

นำท่านเข้าชมชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice palace) ที่อยู่ลึกลงไปประมาณ 20 เมตร โดยมีการขุดเจาะถ้ำน้ำแข็งเมื่อราวปี ค.ศ. 1930 ปัจจุบันภายในถ้ำทำเป็นโพรงทางเดินให้ท่านชมและสัมผัสความหนาวภายในถ้ำ ที่อุณหภูมิ -3 องศา ภายในมีรูปสลักน้ำแข็งในแบบต่างๆ เช่น นกอินทรี เพนกวิน หรือหมี จากนั้นชมอัลไพน์ เซนเซชัน (Alpine Sensation) ที่ทำเป็นอุโมงค์ แสดงเรื่องราวย้อนเวลาไป 100 กว่าปี ของการรถไฟจุงเฟรา สมคสรแก่เวลานำท่านลงจากเขาเพื่อเดินทางต่อ นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Bern) เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลก ในปี ค.ศ.2010 อีกด้วย นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านเดินลัดเลาะสู่ถนนจุงเคอร์นกาสเซ (Junkerngasse) ถนนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีในย่านเมืองเก่า มีบ้านอาคารสไตล์บาโรกตอนปลาย นำท่านแวะถ่ายรูปกับวิหารเบิร์น (Bern’s Minster) วิหารสไตล์โกธิคที่สูงที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 จากนั้นเดินสู่ถนนแครมกัซเซอ (Kramgasse) ทำท่านชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Zytglogge) อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆ ชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านเดินชมมาร์คกาสเซ (Marktgasse) ที่เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ หลังจากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ นำท่านสู่จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) เป็นจัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก HARRY’S HOME หรือเทียบเท่า
วันที่ 4

ซูริค – ซุก - ชมหอนาฬิกาเมืองซุก - ชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป– ลูเซิร์น -ชมสิงโตหินแกะสลัก -สะพานไม้ชาเปล - กอลมาร์ - ถ่ายรูปกับมหาวิหารเซ็นต์มาร์ติน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

นำท่านเที่ยวชม เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา นำท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 นำชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของไวน์แห่งแคว้นอาลซัส (Capitale des Vins d'Alsace) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงบรรยากาศของเมืองโบราณ โดยเฉพาะในตัวเมืองเก่าที่เรียงรายไปด้วยเรือนไม้เก่าแก่ ร้านค้าสวยงาม โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่ อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลางได้อย่างดีสุดแห่งหนึ่งในประเทศ เมืองนี้มีคลองตัดไปมา จนได้รับสมญานามว่า “Little Venice” นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารเซ็นต์มาร์ติน โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากหินสีชมพูทั้งหลัง สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ.1234 - 1365 ถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองกอลมาร์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่สวยงามโอ่อ่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก MERCURE COLMAR หรือเทียบเท่า
วันที่ 5

หมู่บ้านเอกีเชม ประเทศฝรั่งเศส – ริคเวียร์ - เดินเล่นในตัวเมืองเก่า - สตราสบูร์ก

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านอองกีเชม (Eguisheim) ประเทศฝรั่งเศส หมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “อีกหนึ่งหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส” อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของแคว้นอัลซาสอีกด้วย ท่านจะได้ชมชมความงดงามไปตามถนนก้อนกรวดอันคดเคี้ยวของหมู่บ้าน และตื่นตาตื่นใจไปกับความงดงามของเหล่าอาคาร บ้านเรือน ที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นยุคกลางไว้เป็นอย่างดี ชมความเก่าแก่ของอาคารไม้โบราณที่แต่งแต้มด้วยสีสันสีสดใส ชมลานน้ำพุที่สร้างในแบบเรเนซองส์

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองริควีร์ (Riquewihr) เมืองในเส้นทางสายไวน์แห่งแคว้นอัลซาสที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศส นั่งรถผ่านชมบริเวณไร่องุ่นที่ปลูกกันตามแนวไหล่เขาที่ลดหลั่นไปมา ก่อนนำท่านเข้าไปเดินเล่นในตัวเมืองเก่าที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม บรรยากาศภายในหมู่บ้านจะคล้ายกับเดินเข้าไปเหมือนหลงอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเกือบทุกหลังจะตกแต่ง และประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่น่ารักๆ เต็มไปหมด
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) ประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส (Alsace) ที่มี 2 วัฒนธรรม คือฝรั่งเศสและเยอรมนี เนื่องจากผลัดกันอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา สตราสบูร์ก เป็นเมืองใหญ่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่นชม นำท่านชมย่านริมน้ำฝรั่งเศสน้อย หรือ La Petite France หรือ Little France เป็นย่านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ที่เกาะใหญ่กร็องดีล (Grande Île) บนถนน Rue des Moulins พื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำอิล (River III) ทั้งสี่ด้าน นับว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเมืองสตราสบูร์กที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เป็นหนึ่งในจุดสำคัญที่สุดของเมืองนี้ ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมบ้านเรือนริมน้ำต่างๆ อีกทั้งยังได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก HOTEL ORIGAMI หรือเทียบเท่า
วันที่ 6

สตราสบูร์ก - นั่งรถไฟความเร็วสูง TGV - ปารีส - ย่านมงมาร์ต - ขึ้นรถรางชมวิวสวยของนครปารีส

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านนั่งรถไฟความเร็วสูง TGV สู่มหานครปารีส (Paris) เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแลวัฒนธรรมที่ล้าสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทาให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำเที่ยวชมความงดงามของมหานครปารีส
กลางวัน รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ย่านมงมาร์ต (Montmartre) ซึ่งเป็นย่านศิลปินมากว่า 200 ปีแล้ว สัมผัสกับมนต์เสน่ห์และกลิ่นอายของวันวานที่ศิลปะในฝรั่งเศสรุ่งเรืองถึงขีดสุด นำท่านขึ้นรถราง (Funicular) สู่จุดชมวิวสวยของนครปารีสจากบริเวณยอดเนินเขาของวิหารสเกรเกอร์ (Basilica of Sacre Coeur) วิหารสีขาวที่เป็นสัญญาลักษณ์อันโดดเด่นของปารีส
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พัก HAMPTON BY HILTON PARIS CLICHY หรือเทียบเท่า
วันที่ 7

เข้าชมพระราชวังแวร์ซายส์ - ปารีส - ประตูชัย - หอไอเฟล – ถ่ายรูปหน้าพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ - ชอปปิงห้างลา ซามาริแตง

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองแวร์ซายส์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) เพื่อนำเข้าชมความงดงามของพระราชวังแวร์ซายส์ Versailles Palace อันยิ่งใหญ่ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยายในพระราชวัง) ที่สร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรอลังการ ทั้งจิตรกรรมฝาผนัง รูปปั้น รูปแกะสลักและเครื่องเรือน ซึ่งเป็นการใช้เงินอย่างมหาศาล พาท่านชมห้องต่างๆของพระราชวัง เช่น โบสถ์หลวงประจำพระราชวัง, ท้องพระโรงที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง, ห้องอพอลโล, ห้องเมอคิวรี่, ห้องกระจก Hall of Mirror ที่มีความยาวถึง 73 เมตร ซึ่งเป็น ห้องที่พระยาโกษาธิบดี (ปาน) ราชทูตไทยสมัยพระนารายณ์มหาราชเคยเข้าถวายสาส์นต่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นห้องที่ใช้สำหรับจัดงานเลี้ยงและ เต้นรำของพระนางมารี อังตัวแนตต์ มเหสีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16, ชมห้องบรรทมพระราชินีที่ตกแต่งอย่างงดงาม, ภาพเขียนปราบดาภิเษกของจักรพรรดินโปเลียนที่ยิ่งใหญ่

นำท่านกลับมหานครปารีส ผ่านชมความสวยงามของแม่น้าแซนน์ที่ตัดผ่านใจกลางกรุงปารีส ข้ามสะพานสู่ เกาะเดอ ลา ซิเต้ กลางแม่น้าแซน ผ่านลานประวัติศาสตร์จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเนต ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส แล้วผ่านเข้าสู่ถนนสายโรแมนติก ชองป์เอลิเซ่ (Champs Elysees) ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัยนโปเลียน นำชมและถ่ายรูปคู่กับประตูชัยนโปเลียน (Arc de Triomphe) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนในศึก เอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836 แล้วจากนั้นนาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหอไอเฟล (Tour Eiffel) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1889 ที่บริเวณจัตุรัสทรอคคาเดโร่
กลางวัน รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านถ่ายรูปคู่กับพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ (Louvre Museum) พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงและยังมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในอดีตที่นี่เคยเป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์กาเปเซียง ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นที่จัดแสดงผลงานกว่า 35,000 ชิ้น ในพื้นที่กว่า 60,600 ตารางเมตร และมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากถึง 9.7 ล้านคนต่อปี และที่นี่ยังเป็นที่จัดแสดงของภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ภาพโมนาลิซา (Monalisa) ของเลโอนาร์โด ดาวินชี ศิลปินผู้มีชื่อเสียงชาวอิตาลี อีกด้วย จากนั้นนำท่านเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลกอย่าง ลา ซามาริแตง (La Samaritaine) ที่ก่อตั้งในปี 1870 โดย Ernest Cognacq และ Marie-Louise Jaÿ โดยสถาปนิกผู้ออกแบบคือ Frantz Jourdain โดยเป็นอาคารเก่าแก่คลาสสิกที่ถูกขึ้นทะเบียน Monument Historique ให้เป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1990 พบกับความหรูหราโดดเด่นทั้งภายนอก และ ภายในอาคารของห้างด้วยศิลปะหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ภาพวาดฝาผนัง , แผงประดับอาคารที่แสนวิจิตร มีเสน่ห์เฉพาะตัว มีการผสมผสานระหว่างศิลปะอาร์ตนูโว (Art Nouveau) กับอาร์ตเดโค (Art Déco) ได้อย่างลงตัว และภายในอาคารยังมีโครงสร้างเหล็กอันมีเอกลักษณ์ที่ถอดแบบลักษณะมาจากหอไอเฟล ซึ่งห้างได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา และกลายเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ ที่เน้นย้ำถึงเสน่ห์ของปารีส มีร้านค้าระดับพรีเมียม อาหาร และงานศิลปะ รวมแล้วกว่า 600 แบรนด์ มีนิทรรศการที่จะสลับหมุนเวียนให้ได้ชมตลอด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (หอยเอสคาโก้)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HAMPTON BY HILTON PARIS CLICHY หรือเทียบเท่า
วันที่ 8

ชอปปิง OUTLET - ล่องเรือแม่น้ำแซน - ชอปปิงแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ La Vallee Village Outlet เอ๊าท์เล็ตขนาดใหญ่ทีมีสินค้าแบรนด์เนมให้เลือกมากมายอาทิ เช่น Coach, Calvin Klein, Amani, Burberry, Fred Perry, Versace, Diesel, Givenchy, Jimmy Choo, Longchamp, Michael Kors, Roberto Cavalli, Samsonite, Polo Ralph Lauren, Ted Baker, Superdry, Valentino, Salvatore Ferragamo, Hugo Boss และอื่นๆอีกมากมาย อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

นำท่านล่องเรือแม่น้ำแซน ไปตามแม่น้ำแซน ที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของอาคารต่างๆ ตลอดสองฝั่งแม่น้ำนับว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจโดยเรือจะล่องผ่านมหาวิหารนอเตรอดามแห่งปารีส (Notre-dame de Paris) อายุกว่า 800 ปี เป็นมหาวิหารสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่งามเลิศ โดดเด่นด้วยหอคอยคู่หน้าทรงเหลี่ยมและยอดปลายแหลมบนหลังคาวิหารสูงจากระดับพื้นดินถึง 96 เมตร เป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารี อังตัวแนตต์ และยังเป็นจุดกิโลเมตรที่ศูนย์ของประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย จากนั้นให้เวลาท่านเดินชมเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าของที่ระลึก, ร้านกาแฟที่มีอยู่มากมาย หรือ ชมเหล่าศิลปินที่มาวาจากนั้นพาท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยนักชอปปิงจากทั่วทุกมุมโลกในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุง ปารีสที่แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดอยู่ใจกลางกรุงปารีส โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้นดูรูปอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก HAMPTON BY HILTON PARIS CLICHY หรือเทียบเท่า
วันที่ 9

สนามบิน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่สนามบิน สนาบินชาร์ลเดอโกลล์เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
11.25น. ออกเดินทางจากสนามบินชาร์ลเดอโกลล์ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK072
วันที่ 10

ดูไบ - กรุงเทพ

06.25 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครี่อง
09.40 น. ออกเดินทางต่อด้วยเที่ยวบิน EK372
18.55 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวิสดิภาพ
มื้ออาหาร
วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
รายละเอียดและเงื่อนไข

1.        ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท + ค่าวีซ่า 5,900 บาท (ค่ามัดจำ + ค่าวีซ่า ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้) โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น

***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***

2.    ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่าภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ

3.        เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที

4.    หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

5.        การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่

6.        หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

1.          ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์  อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)

2.          ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ

3.          ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ

4.          ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า

5.          ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ

6.          ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ

7.          ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ วงเงินสูงสุด 3,000,000 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด ความคุ้มครองเป็นตามกรมธรรม์ประกันภัย)

8.             ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

1.          ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง

2.          ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น

3.          ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา

4.          ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง

5.          ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศฝรั่งเศส รวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,900.-บาท)

6.          ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น  (16 ยูโร/ต่อท่าน)

7.          ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (30 ยูโร/ต่อท่าน)

GO3ZRH7NCDGEK250407-1 เดินทางวันที่ 07 เมษายน 2568 - 16 เมษายน 2568
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - DXB 2025-04-08 - 2025-04-08 01.15 - 04.45 avatar-img EK385
DXB - ZRH 2025-04-08 - 2025-04-08 08.40 - 13.20 avatar-img EK87
CDG - DXB 2025-04-15 - 2025-04-15 11.25 - 20.00 avatar-img EK72
DXB - BKK 2025-04-15 - 2025-04-16 22.30 - 07.35 avatar-img EK374