Xplore MOROCCO โมร็อคโค 10 วัน 7 คืน โดยสายการบิน EMIRATES (EK)

Xplore MOROCCO  โมร็อคโค  10 วัน 7 คืน โดยสายการบิน EMIRATES (EK)
  • ทัวร์ : Europe [ ยุโรป ]
  • เที่ยวเมือง : Casablanca (คาซาบลังกา) Fez (แฟส) Marrakech (มาร์ราเกช) Ouarzazate (วาร์ซาเซต) Rabat (ราบัต)
  • สายการบิน : Emirates
  • โดย : GO 365 Travel-GO
  • รหัสโปรแกรม : T11263
  • Code : QQGO3CMN-EK001
  • ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
  • ระยะเวลา : 10 วัน 7 คืน
ราคาเริ่มต้นที่
ไฮไลท์ทัวร์ Highlight
คาซาบลังก้า – ราบัต – เชฟชาอูน – เฟซ – เมืองเก่าเฟซ - เมืองโบราณโรมันโวลูบิลิส – แมกเนส - เฟซ – อิเฟรน – มิเดล – เออร์ฟูด์ – เมอร์ซูก้า (ทะเลทรายซาฮาร่า) ขี่อูฐรับแสงอรุณ เมอร์ซูก้า – ทินเจียร์ - ทอดร้าจอร์จ – วอซาเซท – ไอท์เบนฮาดดู - มาราเกซ – สวนจาร์ดีน มาจอแรล – คาซาบลังก้า
ระยะเวลาเดินทาง
ราคาเริ่มต้น
สถานะ
14 มี.ค. 2568 - 23 มี.ค. 2568
79,900
จอง
From - ToDateTimeAirlineFlight
BKK - DXB2025-03-15 2025-03-1501.05 - 04.55EK385
DXB - CMN2025-03-15 2025-03-1507.25 - 13.10EK751
CMN - DXB2025-03-22 2025-03-2315.05 - 01.30EK752
DXB - BKK2025-03-23 2025-03-2303.50 - 12.55EK376
รายละเอียดการจอง
จำนวนการจอง
ราคารวม (บาท)
ผู้ใหญ่ 2 ท่านพัก 1 ห้อง ราคาท่านละ
0
ผู้ใหญ่ 3 ท่านพัก 1 ห้อง ราคาท่านละ
0
ผู้ใหญ่ 1 ท่าน พักเดี่ยว 1 ห้อง(Single room) ราคาท่านละ
0
เด็กต่ำกว่า 11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (ไม่มีเตียง)
0

สรุปการจอง

0 คน

0 บาท

23 เม.ย. 2568 - 02 พ.ค. 2568
79,900
จอง
From - ToDateTimeAirlineFlight
BKK - DXB2025-04-24 2025-04-2401.15 - 04.45EK385
DXB - CMN2025-04-24 2025-04-2407.30 - 12.55EK751
CMN - DXB2025-05-01 2025-05-0214.55 - 01.15EK752
DXB - BKK2025-05-02 2025-05-0203.45 - 13.00EK376
รายละเอียดการจอง
จำนวนการจอง
ราคารวม (บาท)
ผู้ใหญ่ 2 ท่านพัก 1 ห้อง ราคาท่านละ
0
ผู้ใหญ่ 3 ท่านพัก 1 ห้อง ราคาท่านละ
0
ผู้ใหญ่ 1 ท่าน พักเดี่ยว 1 ห้อง(Single room) ราคาท่านละ
0
เด็กต่ำกว่า 11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (ไม่มีเตียง)
0

สรุปการจอง

0 คน

0 บาท

02 พ.ค. 2568 - 11 พ.ค. 2568
79,900
จอง
From - ToDateTimeAirlineFlight
BKK - DXB2025-05-03 2025-05-0301.15 - 04.45EK385
DXB - CMN2025-05-03 2025-05-0307.30 - 12.55EK751
CMN - DXB2025-05-10 2025-05-1114.55 - 01.15EK752
DXB - BKK2025-05-11 2025-05-1103.45 - 13.00EK376
รายละเอียดการจอง
จำนวนการจอง
ราคารวม (บาท)
ผู้ใหญ่ 2 ท่านพัก 1 ห้อง ราคาท่านละ
0
ผู้ใหญ่ 3 ท่านพัก 1 ห้อง ราคาท่านละ
0
ผู้ใหญ่ 1 ท่าน พักเดี่ยว 1 ห้อง(Single room) ราคาท่านละ
0
เด็กต่ำกว่า 11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (ไม่มีเตียง)
0

สรุปการจอง

0 คน

0 บาท

รายละเอียดโปรแกรม
วันที่ 1

สนามบินสุวรรณภูมิ

21.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 4 บริเวณประตูทางเข้าหมายเลข 9 สายการบิน Emirates ROW T เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
วันที่ 2

สนามบินดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) – คาซาบลังก้า – ราบัต (โมร็อคโค)

01.05 น. ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK385 * คณะเดินทางวันที่ 23 เม.ย.–2 พ.ค.68 // 2–11 พ.ค.68 เที่ยวบินที่ EK385 ปรับเวลาออกเดินทางเป็น 01.15 น. และถึงดูไบเวลา 04.45 น.
04.55 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้ท่านรอเปลี่ยนเครื่อง
07.25 น. ออกเดินทางจากสนามบินดูไบ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบิน EK751 * คณะเดินทางวันที่ 23 เม.ย.–2 พ.ค. // 2–11 พ.ค. 2568 ออกเดินทาง เวลา 07.30 น. และถึงคาซาบลังก้า เวลา 12.55 น.
12.40 น. ถึงสนามบินคาซาบลังก้า (Casablanca) ประเทศโมร็อคโค (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร คาซาบลังก้า เมืองท่าหลักและ เมืองใหญ่ที่สุดของโมรอคโค มีความหมายในภาษาสเปนว่า “บ้านสีขาว” ปัจจุบันเมืองแห่งนี้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ

นำท่านเดินทางสู่ เมืองราบัต (Rabat) เมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1956 นำท่านชมเมืองราบัตเมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรมาในอดีต เมื่อโมร็อคโคหลุดพ้นจากการเข้าแทรกแซงทางการเมืองของฝรั่งเศสและเป็นที่ตั้งของพระราชวังหลวง และทำเนียบทูตานุทูตจากต่างแดน เป็นเมืองสีขาวที่สะอาดและสวยงาม นำท่านชมหอคอยฮัสสัน หรือ สุเหร่าหลวง เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมอันทะเยอทะยานของกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 โดยหอคอยมีสูงถึง 44 เมตรหรือ 140 ฟุต การก่อสร้างมัสยิดนี้เริ่มขึ้นในปี ค.ศ.1191 ตั้งใจว่าหอคอยแห่งนี้จะกลายเป็นมัสยิดและสุเหร่าที่สูงที่สุดในโลกและเพื่อเฉลิมฉลองการรบชนะของอัลมันซูร์ แต่ทว่า เมื่ออัลมันซูร์เสียชีวิตในปี ค.ศ.1199 การก่อสร้างมัสยิดจึงหยุดลง ชมสุเหร่าหลวง และ พระราชวังหลวง ที่ทุกเที่ยงวันศุกร์ กษัตริย์แห่งโมร็อคโคจะทรงม้าจากพระราชวังมายังสุเหร่าเพื่อประกอบศาสนกิจ ชมสุสานของกษัตริย์โมฮัมเหม็ด ที่ 5 พระอัยกาของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน ซึ่งมีทหารยามยืนเฝ้าสง่าทุกประตู และเปิดให้คนทุกชาติทุกศาสนาเข้าไปเคารพพระศพที่ฝังอยู่เบื้องล่าง ด้านหน้าของสุสาน คือสุเหร่าฮัสซันที่เริ่มสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 แต่ไม่สำเร็จและพังลงจนเหลือแต่เพียงเสาไว้ 365 ต้น ในบริเวณกว้าง 183 x 139 เมตร แวะถ่ายรูปป้อมอูดายา (Oudayas Fortress) ป้อมขนาดใหญ่ 2 ชั้น ที่ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงใหญ่ เป็นป้อมที่สเปนสร้างขึ้นเมื่อสมัยที่สเปนยึดครองโมร็อคโค ด้านในมีสวนดอกไม้แบบสเปน และเป็น เมดิน่า หรือชุมชนชาวเมืองซึ่งเต็มไปด้วยบ้านเรือนทาทาบด้วยสีฟ้า-ขาว ที่สะอาดตาน่าเดินเล่น บรรยากาศริมทะเลคล้ายเมืองซานโตรินี นับเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่สำคัญของโมร็อคโค ในอดีตใช้ป้องกันข้าศึกจากการรุกรานทั้งจากประเทศที่ล่าอาณานิคมและในยุคที่โจรสลัดชุกชุม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารหรือโรงแรม
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hotel Rive หรือเทียบเท่า
วันที่ 3

ราบัต – เชฟชาอุน - เฟซ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เชฟชาอูน (Chefchaouen) เมืองที่ได้ชื่อว่ามนต์เสน่ห์แห่งโมร็อคโค (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง) เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ในหุบเขาริฟ (Rif Mountain) ประวัติความเป็นมาของเมืองนั้นยาวนานกว่า 538 ปี เมืองนี้เคยอยู่ใต้การปกครองของสเปนและได้รับอิสรภาพในปี ค.ศ.1956 จนได้รับอิทธิพลวิถีชีวิตและภาษาสเปนในปัจจุบันนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชมนครสีฟ้าเชฟชาอูน ชมบ้านเรือนทาด้วยสีฟ้าและสีขาว ถือว่าเป็นสวรรค์ของคนรักสีฟ้าและสีขาว โดยเฉพาะสีฟ้า ด้วยเพราะว่าเชฟชาอูนเป็นเมืองที่บ้านเรือนเกือบทุกหลังเป็นสีขา และมีครึ่งล่างไปจนถึงบริเวณถนน บันได และทางเดิน เป็นสีฟ้าสดใสเหมือนวันที่ท้องฟ้าไร้เมฆ สามารถเดินชมบ้านเรือนได้ทั่วทั้งเมือง โดยที่สถาปัตยกรรมของเมืองยังคงเป็นแบบโมร็อคโค ซุ้มประตูโค้งจึงสามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งเมือง และยังมีน้ำพุที่ปูด้วยกระเบื้องโมเสกแบบโมร็อคโคให้เห็นได้ตามมุมต่างๆ ของเมือง พร้อมให้ท่านมีเวลาเดินเลือกซื้อของที่ระลึกในตลาดเมืองเก่า สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่เมืองเฟซ (Fes) เมืองหลวงเก่าในช่วงศตวรรษที่ 8 ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโมร็อคโค เส้นทางนี้ผ่านเทือกเขาแอตลาส ชื่อที่คุ้นเคยกันมานาน โดยเดินทางข้าม Middle Atlas ภูมิประเทศเขียวชอุ่มไปด้วยป่าไม้ สองข้างทางเปลี่ยนสภาพจากความแห้งแล้วเป็นป่าไม้ พุ่ม และสลับกับความแห้งแล้งของภูเขาจนเข้าสู่เมืองเฟส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารหรือโรงแรม
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก ESCALE Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 4

เฟซ – เมืองเก่าเฟซ – เมืองโบราณโวลูบิลิส – แมกเนส – เฟซ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านชมเมืองเฟส โดยเดินเข้าสู่เขาวงกตอันซับซ้อนแห่งเมดินาเมืองเฟซ ผ่านประตู Bab Bou Jeloud ที่สร้างตั้งแต่ปี 1913 ที่ใช้โมเสดสีฟ้าตกแต่ง เดินผ่านเข้าไปในเขตเมดิน่าแล้วเหมือนข้ามกาลเวลาย้อนสู่อดีต นำท่านเดินผ่านตลาดสดขายข้าวปลาอาหารและผัก ผลไม้สดต่างๆนานา ชม เมเดอร์ซา บูอิมาเนีย (Merdersa Bou Imania) ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนพระคัมภีร์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบมัวร์ที่สวยงามประณีต ในเขตเมืองเก่าได้แบ่งออกเป็น 100 ส่วน มีซอยกว่า 10,000 ซอย มีซอยแคบสุดคือ 50 ซ.ม. ถึงกว้าง 3 เมตร จะแบ่งเป็นย่านต่างๆ เช่น ย่านเครื่องใช้ทองเหลือง ทองแดง จะมีร้านค้าเล็กๆที่หน้าร้านจะมีหม้อ กะทะ อุปกรณ์เครื่องครัว วางแขวนห้อยเต็มไปหมด ย่านขายพรมที่วางเรียงรายอย่างสวยงาม ย่านงานเครื่องจักสาน งานแกะสลักไม้ และย่านเครื่องเทศ (Souk El Attarine) ท่านจะได้สัมผัสทั้งรูป รสและกลิ่นในย่านเครื่องเทศที่มีการจัดเรียงสินค้าได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม ระหว่างที่เดินตามทางในเมดิน่าท่านจะได้พบกับน้ำพุธรรมชาติ (Nejjarine Fountain) เพื่อให้ชาวมุสลิมให้ล้างหน้าล้างมือก่อนเข้าในบริเวณมัสยิด นอกจากนี้ที่ตามซอกมุมอาจเห็นภาพชายสูงอายุหนวดเครารุงรังนั่งแกะสลักไม้ชิ้นเล็กๆอยู่บริเวณตามทางเดินแคบๆในเขตเมืองเก่า บางทีเราก็ยังจะเห็นผู้หญิงที่นี่สวมเสื้อผ้าที่ปิดตั้งแต่หัวจนถึงเท้าจะเห็นได้ก็เฉพาะตาดำอันคมกริบเท่านั้น แวะชมสุสานของมูเล ไอดริสที่ 2 (Moulay Idriss Mausolem II) ที่ชาวโมร็อคโคถือว่าเป็นแหล่งมาแสวงบุญที่ศักดิ์สิทธิ์ ชม สุเหร่าใหญ่ไคเราวีน (Kairaouine Mosque) ซึ่งเป็นทั้งมหาวิทยาลัยสอนศาสนาแห่งแรกของโมร็อคโค และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว (เฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น) จากนั้นนำท่านเดินชมย่านเครื่องหนังและแวะชม บ่อฟอกและย้อมสีหนังแบบโบราณ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองเฟส ถูกอนุรักษ์โดยองค์กรยูเนสโก้ ทั้งหมดนี้เป็นเสน่ห์ของการเดินเที่ยวชมเมืองที่ต้องเดินแหวกว่ายเข้าไปในกลุ่มคนชาวพื้นเมือง ช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่น เมืองเฟซจึงเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดในการมาเยือนอย่างยิ่ง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองโบราณโรมันโวลูบิลิส (Roman City of Volubilis) ที่ปัจจุบันเหลือแต่ซากปรักหักพังที่เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในปี ค.ศ.1755 แต่ยังคงเห็นได้ถึงร่องรอยความยิ่งใหญ่ของเมืองในจักรวรรดิโรมันในอดีตซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกในปี ค.ศ.1997

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองแมกเนส (Meknes) ชมเมืองแมกเนส (Meknes) หนึ่งในเมืองมรดกโลกรับรองโดยยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1996 อดีตเมืองหลวงในสมัยสุลต่าน มูเล อิสมาอิแห่งราชวงศอ์ะลาวทิ (Alawite Dynasty) ได้ชื่อเป็นกษัตริย์จอมโหดผู้ชื่นชอบการทำสงครามในช่วงศตวรรษที่ 17 ด้วยทำเลที่ตั้งที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมืองเมกเนสจึงเป็นเมืองศูนย์กลางการ ผลิตมะกอกไวน์และพืชพรรณต่างๆ มีกำแพงเมืองล้อมรอบเมืองเก่าที่ยาวประมาณ 40 กม. ซึ่งมีประตูเมืองใหญ่โตถึง 7 ประตู แวะชม ประตูบับมันซู เป็นประตูที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุด ตกแต่งด้วยโมเสดและกระเบื้องสีเขียวสดบนผนังสีแสด สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองเฟซ Fez
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารหรือโรงแรม
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ESCALE Hotel หรือเทียบเท่า

** ควรจัดเตรียมเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเล็ก เพื่อค้างคืนที่แค้มป์ในทะเลทราย 1 คืน สำหรับวันถัดไป ** หมายเหตุ กรณีที่พักในทะเลทรายห้องพักส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบสไตล์แค้มป์ **
วันที่ 5

เฟซ – อิเฟรน – มิเดล – เออร์ฟูด์ – เมอร์ซูก้า (ทะเลทรายซาฮาร่า)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางผ่านชม เมืองอิเฟรน (Ifrane) เมืองที่ความสูงประมาณ 1,650 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ที่พักตากอากาศซึ่งในอดีตฝรั่งเศสได้มาสร้างขึ้นบริเวณนี้ ในช่วง ค.ศ.1930 บางครั้งเรียกเมืองแห่งนี้ว่า เจนีวาแห่งโมร็อคโค บ้านส่วนใหญ่มีหลังคาสีแดง มีดอกไม้บาน และทะเลสาบสวยงาม เป็นสถานที่พักผ่อนทั้งฤดูหนาวและฤดูร้อน เส้นทางนี้ผ่านเทือกเขาแอตลาส ชื่อที่คุ้นเคยกันมานาน เดินทางข้าม Middle Atlas ภูมิประเทศเขียวชอุ่มไปด้วยป่าไม้ สองข้างทางเปลี่ยนสภาพจากความแห้งแล้วเป็นป่าไม้ พุ่ม และสลับกับความแห้งแล้งของภูเขา ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองมิเดล (Midelt)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเออร์ฟูด์ (Erfoud) ซึ่งเป็นโอเอซิสศูนย์กลางการค้าขายของคาราวานซึ่งเดินทางมาจากซาอุดิอาระเบีย และซูดาน เดินทางสู่เมืองเมอร์ซูก้าร์ (แยกสัมภาระสำหรับค้างคืนในทะเลทราย) โดยนำท่านนำท่านนั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อ 4 WD ไปท่องทะเลทรายซาฮาร่า “Sahara” เป็นทะเลทรายในทวีปแอฟริกาที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (รองจากทะเลทรายในทวีปแอนตาร์กติกา) และเป็นทะเลทรายร้อนที่ใหญ่ที่สุดของโลก ณ เมืองเมอร์ซูก้า (Merzouga) ลัดเลาะขอบทะเลทรายสู่เขตซาฮาร่า ผ่านชมชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของภูเขาหินที่เต็มไปด้วยซากฟอสซิลของหาอยและแมงกะพรุนโบราณในอดีตเมื่อ 350 ล้านปีก่อน ซึ่งดินแดนแห่งนี้เคยอยู่ใต้ท้องทะเลมาก่อน จึ่งเป็นที่กำเนิดของซากฟอสซิลต่างๆ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่โรงแรม
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERZOUGAR CAMP หรือเทียบเท่า
วันที่ 6

ขี่อูฐรับแสงอรุณ - เมอร์ซูก้า – ทินเจียร์ - ทอดร้าจอร์จ - วอซาเซท

เช้าตรู่ ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นนำท่านขี่อูฐชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลทรายซาฮาร่า ** พิเศษ รวมค่าขี่อูฐ 1 ท่าน/อูฐ 1 ตัว เป็นบรรยากาศยามเช้าที่คุณจะประทับใจมิรู้ลืม **(กรุณาเตรียมเสื้อกันหนาว)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านนั่งรถ 4WD สู่เมืองเออร์ฟูด์ เพื่อเปลี่ยนเป็นรถโค้ชปรับอากาศ จากนั้นเดินทางสู่ทอดร้าจอร์จ (Todra Gorge) ชมความงามของช่องเขาที่ซ่อนตัวอยู่ในโอเอซิส ลำน้ำใสไหลผ่านช่องเขากับหน้าผาสูงชันแปลกตาเป็นแหล่งปีนหน้าผาสำหรับนักเสี่ยงภัยทั้งหลาย เดินทางผ่านสู่เมืองทินเจียร์ (Tinghir) ชุมชนที่เกาะกลุ่มอยู่รวมกัน ท่ามกลางความแห้งแล้งแต่ยังมีความชุ่มชื้นของโอเอซิสของต้นปาล์ม เคยเป็นที่ตั้งของกองทหารที่เดินทางมาจากวอซาเซท
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองวอซาเซท (Ouarzazate) เคยเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ในปี ค.ศ. 1928 ฝรั่งเศสได้ตั้งกองกำลังทหารและพัฒนาที่นี่ให้เป็นศูนย์กลางการบริหาร วอซาเซทเป็นเมืองถูกส่งเสริมให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่แวดล้อมไปด้วยสตูดิโอภาพยนตร์ และมีการพัฒนาพื้นที่ในทะเลทรายเพื่อการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การขี่มอเตอร์ไซด์ อูฐ กิจกรรมผจญภัยกลางทะเลทราย เมืองนี้อยู่ใกล้ภูเขาแอตลาสที่มีหิมะปกคลุมในช่วงฤดูหนาว วอซาเซทอาจกล่าวได้ว่าเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวที่มองหาความแตกต่าง และความผจญภัยที่หาไม่ได้จากที่ไหน วอซาเซทเป็นเมืองที่สำคัญที่สุดของทางตอนใต้ และที่นี่ยังเป็นทางเชื่อมระหว่างเหนือกับใต้ และตะวันออกกับตะวันออก สำหรับนักท่องเที่ยวบางคนที่ชอบรสชาติของความเป็นทางใต้ ณ แห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจเมืองต่างๆได้ทุกวัน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารหรือโรงแรม
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Karam Palace Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 7

วอซาเซท – มาราเกซ – ชมโชว์การแสดงพื้นเมือง

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

แวะถ่ายรูป ป้อมทาเริท Kasbah Taourirt เป็นป้อมแห่งตระกูลกลาวี ซึ่งภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ จำนวนมากซ่อนอยู่เชื่อมต่อกันด้วยถนนเล็กๆ และเส้นทางลับคดเคี้ยวตามอาคารที่เบียดเสียดกัน พระราชวังของตระกูลกลาวี Glaoui Palace ผู้ปกครองมาราเกซ ซึ่งยังมีลวดลายผนังอาคารและรูปแบบสถาปัตยกรรมอันหลากหลายของการสร้างอาคารของชาวเบอร์เบอร์ การออกแบบอาคารซึ่งเหมาะกับความเชื่อและความเป็นอยู่ของเหล่าเจ้าผู้ปกครอง ในยุคของตระกูล Glaoui ที่นี่มีคนงานและคนรับใช้จำนวนหลายร้อยคนจึงต้องมีห้องเป็นจำนวนมาก มีทั้งส่วนที่เป็นวังเก่า ห้องนั่งเล่น ห้องรับรอง ซึ่งองค์การยูเนสโก้ได้ปฏิสังขรณ์ขึ้นมาจากอาคารเดิมเพียง 1 ใน 3 ของอาคารทั้งหมด จากนั้นนำท่านออกเดินทางผ่าน เมืองไอท์ เบนฮาดดู Ait Benhaddou เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องการหารายได้จากกองถ่ายทำภาพยนตร์กว่า 20 เรื่อง โดยเฉพาะป้อมที่งดงามและมีความใหญที่สุดในโมร็อคโค ภาคใต้ คือ ป้อมไอท์ เบนฮาดดู Kasbash of Ait Ben Hadou เป็นป้อมหินทรายซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางสวนอัลมอนด์ เป็นปราสาทที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่องที่โด่งดัง อาทิ Lawrence of Arabia, Jesus of Nazareth และ Gladiator ปัจจุบันอยู่ในความดูแลขององค์การยูเนสโก้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่ เมืองมาราเกช (Marakesh) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่ตั้งอยู่เชิงเขาแอตลาส ในอดีตเมืองโอเอซิสแห่งนี้เป็นที่พักของกองคาราวานอูฐที่มาจากทางตอนใต้ของโมร็อคโค ถือเป็นเมืองชุมทางของพ่อค้าต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นอดีตเมืองหลวงในช่วงสมัยราชวงศ์อัลโมราวิดช่วงศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด สภาพบ้านเมืองที่เราเห็นได้คือ สองข้างทางแวดล้อมด้วยบ้านเรือนที่ถูกฉาบด้วยปูนสีส้มๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำหนดไว้ แต่คนท้องถิ่นจะเรียกว่า Pink City หรือ เมืองสีชมพู อาจกล่าวได้ว่ามาราเกชเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง จึงได้สมญานามว่าเป็น A city of Drama นั่นคือมีความสวยงามดั่งเมืองในละครที่ไม่น่าเป็นชีวิตจริงได้ นำท่านเยี่ยมชม พระราชวังบาเฮีย (Bahia Palace) เป็นพระราชวังของท่านมหาอำมาตย์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทนยุคกษัตริย์ในอดีต สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดย Si Moussa สถาปัตยกรรมออกแบบเป็นแนวสมัยใหม่ โดยที่ตั้งใจจะให้เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และหรูหราที่สุดในสมัยนั้น ตัวพระราชวังมีการตกแต่งโดยการแกะสลักปูนปั้นมีการวาดลายบนไม้และประดับประดาด้วยโมเสดเป็นลวดลายที่สวยงามละเอียดอ่อนมาก จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสกลางเมือง Djemaa Fnaa Square ที่มีขนาดใหญ่ รายล้อมไปด้วยอาคาร ร้านค้า ตลาด ทั้ง 4 ด้าน เดินเล่นถ่ายรูปความมีชีวิตชีวา ที่มีสีสันและกลิ่นอายแบบโมร็อคโคขนานแท้ พร้อมจับจ่ายหาซื้อของฝากของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ ได้ที่ ตลาดเก่าที่อยู่รายรอบจัตุรัส
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Plam Plaza Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 8

มาราเกซ – สวนจาร์ดีน มาจอแรล – คาซาบลังก้า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านชม สวนจาร์ดีน มาจอแรล Jardin Majorelle หรือ สวนยิปแซงลอเร้นซ์ Yves Saint Laurent Gardens ชื่อนี้เป็นที่คุ้นเคยของสาว ๆ ที่ชื่นชอบแฟชั่นสุดหรูของ Yves St. Laurent นักออกแบบแฟชั่นดีไซน์แห่งปารีสประเทศฝรั่งเศส จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองคาซาบลังก้า (Casablanca) นำท่านสู่เมือง คาซาบลังก้า คำว่า 'คาซา' แปลว่า บ้าน และ 'บลังก้า' แปลว่า สีขาว คาซาบลังก้า เป็นเมืองที่คนทั่วโลกรู้จัก และอาจรู้จักมากกว่า 'ราชอาณาจักรโมร็อคโค' ด้วยซ้ำ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชมเมืองคาซาบลังก้า (Casablanca) เมืองที่ถูกใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Casablanca ออกฉายในปี ค.ศ.1942 นำท่านถ่ายรูปกับ สุเหร่าแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี ค.ศ.1993 ในวาระเฉลิมพระชนม์ครบ 60 พรรษาของกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 แห่งโมร็อกโกเป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่มากจุคนได้ 25,000 คนและมีหอคอยสูง 210 เมตร ชมโบถส์ชาวยิว (The Church of our ladies of Lourdes) ภายในมีภาพกระจกสีสวยงามแสดงเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับศาสนา ต่อด้วยจัตุรัสสหประชาชาติ ซึ่งเป็นใจกลางเมืองย่านธุรกิจสำคัญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Imperial Casablanca Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 9

คาซาบลังก้า – สนามบินคาซาบลังก้า (โมร็อคโค)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
11.00 น. นำคณะเดินทางสู่สนามบินคาซาบลังก้า และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
15.05 น. เดินทางออกจากสนามบินคาซาบลังก้า โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK752 * คณะเดินทางวันที่ 23 เม.ย.–2 พ.ค.68 // 2–11 พ.ค.68 ออกเดินทาง เวลา 14.55 น. และถึงดูไบ เวลา 01.15 น.
วันที่ 10

สนามบินดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) – สนามบินสุวรรณภูมิ

01.30 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้ท่านรอเปลี่ยนเครื่อง
03.50 น. ออกเดินทางจากสนามบินดูไบ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบิน EK376 * คณะเดินทางวันที่ 23 เม.ย.–2 พ.ค.68 // 2–11 พ.ค.68 ออกเดินทาง เวลา 03.45 น. และถึงกรุงเทพ เวลา 13.00 น.
12.55 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ.
มื้ออาหาร
วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
รายละเอียดและเงื่อนไข

1.      ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท + ค่าวีซ่า 3,900 บาท (ค่ามัดจำ + ค่าวีซ่า ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้) โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น

***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***

2.      ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า

ภายใน 3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาตยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ

3.      เมื่อได้รับการยืนยันว่าคณะออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที

4.      หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

5.      การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่นรายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่

6.      หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

 

1.         ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)

2.         ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ

3.         ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ

4.         ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า

5.         ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ

6.         ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ

7.         ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง

8.         ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

1.         ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง

2.         ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น

3.         ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา

4.         ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง

5.         ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศโมร็อคโคแบบออนไลน์ (3,900 บาท)

6.         ค่าทิปพนักงานขับรถและมัคคุเทศก์ท้องถิ่น  (50 USD/ท่าน)

7.         ค่าทิปหัวหน้าทัวร์จากเมืองไทย (30 USD/ท่าน)

GO3CMN7NCMNEK250314 เดินทางวันที่ 14 มี.ค. 2568 - 23 มี.ค. 2568
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - DXB 2025-03-15 ถึง 2025-03-15 01.05 - 04.55 avatar-img EK385
DXB - CMN 2025-03-15 ถึง 2025-03-15 07.25 - 13.10 avatar-img EK751
CMN - DXB 2025-03-22 ถึง 2025-03-23 15.05 - 01.30 avatar-img EK752
DXB - BKK 2025-03-23 ถึง 2025-03-23 03.50 - 12.55 avatar-img EK376
GO3CMN7NCMNEK250423 เดินทางวันที่ 23 เม.ย. 2568 - 02 พ.ค. 2568
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - DXB 2025-04-24 ถึง 2025-04-24 01.15 - 04.45 avatar-img EK385
DXB - CMN 2025-04-24 ถึง 2025-04-24 07.30 - 12.55 avatar-img EK751
CMN - DXB 2025-05-01 ถึง 2025-05-02 14.55 - 01.15 avatar-img EK752
DXB - BKK 2025-05-02 ถึง 2025-05-02 03.45 - 13.00 avatar-img EK376
GO3CMN7NCMNEK250502 เดินทางวันที่ 02 พ.ค. 2568 - 11 พ.ค. 2568
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - DXB 2025-05-03 ถึง 2025-05-03 01.15 - 04.45 avatar-img EK385
DXB - CMN 2025-05-03 ถึง 2025-05-03 07.30 - 12.55 avatar-img EK751
CMN - DXB 2025-05-10 ถึง 2025-05-11 14.55 - 01.15 avatar-img EK752
DXB - BKK 2025-05-11 ถึง 2025-05-11 03.45 - 13.00 avatar-img EK376